|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง เศษส่วน และ การบวก การลบ การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน (2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ให้นักเรียนร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสนามบิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 51 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ แบบ STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน จำนวน 21 แผน 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้วิจัย แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของผู้เรียน แบบบันทึกผลหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ แบบสัมภาษณ์นักเรียน แบบทดสอบย่อยท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียน ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน รูปแบบที่ใช้ในการวิจัยเป็นการวิจัยเป็นเชิงปฏิบัติการ มีวงจรปฏิบัติการวิจัย 3 วงจร การวิเคราะห์ ข้อมูลใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละและสรุปความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ แบบSTAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน แบบร่วมมือกันเรียนรู้ แบบ STAD ซึ่งมีส่วนประกอบที่สำคัญ 5 ประการ ได้แก่ 1. การเสนอบทเรียนต่อทั้งชั้น ครูใช้เทคนิควิธีการนำเสนอ/สอนขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้อหามี 4 ขั้น ดังนี้ 1) ขั้นนำ เป็นการแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และทบทวนเนื้อหา 2) ขั้นสอน ประกอบด้วย (1) เผชิญสถานการณ์ปัญหา (2) ทำความเข้าใจสถานการณ์ (3) หาแนวทางแก้ปัญหาที่หลากหลาย (4) ลงมือปฏิบัติตามแนวทางที่เลือก (5) ตรวจสอบความถูกต้อง 3) ขั้นสรุป เป็นการอภิปราย สรุปข้อคิดและมโนมติบทเรียน 2. การศึกษากลุ่มย่อย นักเรียนจะเข้ากลุ่มย่อยศึกษาบัตรเนื้อหาและทำกิจกรรมที่ระบุไว้ ในบัตรกิจกรรมกลุ่มโดยช่วยเหลือกันเรียนรู้ ซึ่งเป็นขั้นที่ 4) ขั้นพัฒนาทักษะ/นำไปใช้ 3. การทดสอบย่อยท้ายวงจร เป็นการประเมินความเข้าใจบทเรียนนักเรียนทำแบบทดสอบโดยไม่ช่วยเหลือกัน 4. การคิดคะแนนความก้าวหน้า เป็นการนำคะแนนความก้าวหน้ารายบุคคลมาเป็นคะแนนกลุ่ม แล้วหาคะแนนความก้าวหน้าเฉลี่ยของกลุ่ม และ 5. การยกย่องกลุ่มที่ประสบผลสำเร็จ เป็นการนำคะแนนความก้าวหน้าของกลุ่มมาเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ส่วนด้านพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ แบบ STAD ทำให้นักเรียนเกิดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ได้แก่ ทักษะการทำงานกลุ่ม การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความสามัคคี ความรับผิดชอบ ความมั่นใจ และตระหนักในคุณค่าของตนเอง
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนร้อยละ 94.87 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป
|
โพสต์โดย พิภพ : [24 เม.ย. 2560 เวลา 08:17 น.] อ่าน [4436] ไอพี : 192.168.100.235, 180
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 14,300 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,397 ครั้ง
| เปิดอ่าน 139,571 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,884 ครั้ง
| เปิดอ่าน 78,698 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,848 ครั้ง
| เปิดอ่าน 49,125 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,305 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,208 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,346 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,680 ครั้ง
| เปิดอ่าน 57,923 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,547 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,924 ครั้ง
| เปิดอ่าน 58,410 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 11,337 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,310 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,538 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,467 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,189 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|