ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ
การอ่านจับใจความจากนิทานพื้นบ้านไทยสี่ภาคประกอบการเรียนแบบร่วมมือ
เทคนิค STAD กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนบ้านหนองคอไก่
ผู้รายงาน นางนันท์นภัส อินทอง
พ.ศ. 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานพื้นบ้านไทยสี่ภาคประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองคอไก่ ตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองคอไก่ ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานพื้นบ้านไทยสี่ภาคประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD 3) ศึกษาพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองคอไก่ ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานพื้นบ้านไทยสี่ภาคประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองคอไก่ ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานพื้นบ้านไทยสี่ภาคประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD
กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองคอไก่ ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานพื้นบ้านไทยสี่ภาค จำนวน 10 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานพื้นบ้านไทยสี่ภาคประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD จำนวน 20 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความ จำนวน 30 ข้อ 4) แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม จำนวน 5 ข้อ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t test for dependent samples)
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานพื้นบ้านไทยสี่ภาคประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD เท่ากับ 82.10/83.78 เมื่อทดลองใช้กับนักเรียนจำนวน 30 คน ที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย และมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 82.27/83.67 ตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 07421 เมื่อทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 10 คน
2. ผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองคอไก่ ก่อนและหลังการทดลองใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง
3. พฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหนองคอไก่ ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานพื้นบ้านไทยสี่ภาคประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายพฤติกรรมพบว่า มีรายพฤติกรรมที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากจำนวน 1 พฤติกรรม คือ การแสดงความคิดเห็นและการยอมรับฟังความคิดเห็น นอกนั้นมีคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้พบว่า นักเรียนมีพัฒนาการพฤติกรรมการทำงานกลุ่มสูงขึ้นตามลำดับ
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานพื้นบ้านไทยสี่ภาคประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า มีข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดจำนวน 3 ข้อ เรียงตามลำดับคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยดังนี้ แบบฝึกช่วยพัฒนาการอ่านจับใจความได้มากขึ้น รองลงมาได้แก่ แบบฝึกช่วยให้การเรียนสนุกไม่เบื่อ นักเรียนชอบการเรียนเป็นกลุ่มกับเพื่อน นักเรียนรู้สึกภูมิใจในตนเองที่ได้ช่วยกันทำงานจนสำเร็จ และภาพประกอบในแบบฝึกช่วยให้นิทานน่าสนใจมากที่สุด นอกนั้นมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก