ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่) โดยใช้
กระบวนการลูกเสือ เพื่อส่งเสริมคุณธรรม 8 ประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นายภาณุพงศ์ สมอชัย
ที่มา โรงเรียนบ้านหนองผักแว่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3
อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ปีที่พิมพ์ 2559
บทคัดย่อ
รายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่) โดยใช้กระบวนการลูกเสือ เพื่อส่งเสริมคุณธรรม 8 ประการชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านหนองผักแว่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่) โดยใช้กระบวนการลูกเสือ
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม 8 ประการ ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่ต่อการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่) โดยใช้กระบวนการลูกเสือเพื่อส่งเสริม คุณธรรม 8 ประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านหนองผักแว่น จำนวน 2 หมู่ๆละ 7-8 คน ทั้งหมด 15 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน 18 ชั่วโมง แบบทดสอบย่อยระหว่างเรียน ใบงาน แบบวัดผลภาคปฏิบัติ แบบสังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 0.77 มีค่าความเชื่อมั่น 0.82 และแบบประเมินความพึงพอใจ 1 ฉบับที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่) โดยใช้กระบวนการลูกเสือ เพื่อส่งเสริมคุณธรรม 8 ประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 88.97/84.89 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน(ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่) โดยใช้กระบวนการลูกเสือ เพื่อส่งเสริมคุณธรรม 8 ประการชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.6730 หมายความว่า ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียน คือ มีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 67.30
3.ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่) โดยใช้กระบวนการลูกเสือ เพื่อส่งเสริมคุณธรรม 8 ประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่) โดยใช้กระบวนการลูกเสือ เพื่อส่งเสริมคุณธรรม 8 ประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อ 9 กิจกรรมการเรียนรู้ทำให้ ลูกเสือเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติและสามารถปฏิบัติเองได้ และข้อ15 ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ภูมิใจที่สามารถใช้สื่อการสอนด้วยตนเอง
คุณธรรมของนักเรียนที่เกิดขึ้นในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนทุกแผนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่) โดยใช้กระบวนการลูกเสือเพื่อส่งเสริมคุณธรรม 8 ประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า นักเรียนมีคุณธรรม 8 ประการ ซึ่งเกิดจากการสังเกตพฤติกรรมทั้งในชั่งโมงการจัดกิจกรรมและนอกการจัดกิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 81.69 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อ 3 คือ ความซื่อสัตย์ คิดเป็นร้อยละ 86.67 รองลงมาคือ ข้อ 6 ความสะอาด คิดเป็นร้อยละ 82.59 และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ข้อ 8 ความมีน้ำใจ จะเห็นว่าการพัฒนาการจัดการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่) โดยใช้กระบวนการลูกเสือ เพื่อส่งเสริมคุณธรรม 8 ประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นผู้มีคุณธรรมตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย
โดยสรุป การวิจัยเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ รุ่นใหญ่) โดยใช้กระบวนการลูกเสือ เพื่อส่งเสริมคุณธรรม 8 ประการชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนเต็มศักยภาพ ทำให้ผู้เรียนมีความรู้ มีคุณธรรมและนักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆได้อย่างถูกต้องเหามะสม ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ตลอดจนนักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืน