เรื่อง การพัฒนาเอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก
ชื่อผู้รายงาน นายไพศาล ตั้งสุวรรณมณี
กลุ่มสาระ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ปีที่รายงาน 2557
บทคัดย่อ
งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1.) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2.) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริกที่ใช้ เอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระหว่างก่อนและหลังใช้เอกสารประกอบการสอนและ 3.) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์กลุ่มสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก ทั้งหมด 4 ห้อง จำนวน 140 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก จำนวน 1 ห้อง เทคนิคการได้มาของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่มแบบเจาะจงเพราะนักเรียนในห้องเรียนมีนักเรียน เก่ง ปานกลาง อ่อน อยู่ในห้องเดียวกัน จำนวน 35 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แผนการจัดการเรียนรู้เอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 หน่วย 20 คาบ เอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 หน่วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้เอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกและแบบประเมินความพึงพอใจเอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบมาตราประเมินค่า (Rating Scale) ชนิด 5 ช่วงคะแนน (Likert Scale)
สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าความสอดคล้อง (IOC) ค่าประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอน E1/E2 ค่าความยากง่าย (p) หาค่าอำนาจจำแนก (r) หาความเชื่อมั่น ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่า t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. ค่าประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 มีค่าเท่ากับ 84.08/81.93
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนเอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้เอกสารประกอบการสอนสาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทั้งโดยรวมและรายข้อ อยู่ในระดับมากที่สุด