บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ ๑) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านสวนพลู ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทยเรื่องการพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านสวนพลู และ ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทยเรื่องการพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านสวนพลู ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี 1 โรงเรียนบ้านสวนพลู สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 1 ในภาคเรียนที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕9 จำนวน 20 คน ที่ผู้รายงานเป็นครูประจำชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ๑) แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทยเรื่องการพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการอ่านและเขียนคำตัวสะกดตรงมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 แผน ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านและเขียนคำตัวสะกดตรงมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน ๓๐ ข้อ และ ๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทยเรื่องการอ่านและเขียนคำตัวสะกดตรงมาตรา จำนวน ๑๐ ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติคือ ค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ
ผลการศึกษาพบว่า
๑) ประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) มีค่าเท่ากับ ๘3.10 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) มีค่าเท่ากับ ๘3.17 ดังนั้น ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทยเรื่อง เรื่อง การอ่านและการเขียนคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านสวนพลู ค่าเท่ากับ ๘3.10 /๘3.17
๒) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทยเรื่องการพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านสวนพลู ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 13.05 คิดเป็นร้อยละ 43.50 ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 24.95 คิดเป็นร้อยละ ๘3.17 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเฉลี่ย ๑1.90 คิดเป็นร้อยละ 39.67
๓) ระดับความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทยเรื่องการอ่านและการเขียนคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านสวนพลู เฉลี่ยโดยส่วนรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.42 คิดเป็นร้อยละ 84.40
ข้อเสนอแนะ
๑) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ควรนำแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทยเรื่องการพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ไปประยุกต์ใช้สำหรับเสริมทักษะภาษาไทยเรื่องการอ่านและการเขียนคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพราะจากผลการศึกษายืนยันได้ถึงความสำเร็จในการนำไปใช้แล้ว คือ การมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘3.10 /๘3.17 สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้สูงขึ้นได้ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
๒) จากการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนพบว่ารายการกิจกรรมการเรียนสนุกและน่าสนใจ มีระดับความพึงพอใจต่ำสุด ซึ่งอาจอธิบายได้ว่า การออกแบบการจัดกิจกรรม แบบฝึกและแบบทดสอบต่างๆอาจยังมีความไม่เหมาะสมบางประการ จนส่งผลให้นักเรียนยังไม่พึงพอใจมากนัก ดังนั้น ครูผู้สอนหรือผู้ที่ต้องการนำผลการศึกษาไปใช้ควรให้ความสำคัญกับการออกแบบการจัดกิจกรรม แบบฝึกและแบบทดสอบต่างๆให้มีความเหมาะสม สามารถดึงดูดความสนใจนักเรียนให้ทำงานได้อย่างมีความสุขและเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป