|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนานวัตกรรมชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หน่วยการเรียนรู้ ธาตุและสารประกอบ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของนวัตกรรม ชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หน่วยการเรียนรู้ ธาตุและสารประกอบ 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หน่วยการเรียนรู้ ธาตุและสารประกอบ 4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หน่วยการเรียนรู้ ธาตุและสารประกอบ 5) เพื่อสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม โดยใช้การ จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หน่วยการเรียนรู้ ธาตุและสารประกอบ 6) เพื่อสำรวจความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หน่วยการเรียนรู้ ธาตุและสารประกอบ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 12 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 42 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต และนำนวัตกรรมที่พัฒนาแล้วไปทดลองใช้กับกลุ่มเป้าหมายนักเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 3 ห้องเรียน จำนวน 126 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) ชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม หน่วยการเรียนรู้ ธาตุและสารประกอบ ที่ประกอบด้วยคู่มือการใช้ชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรมสำหรับครูและแบบฝึกปฏิบัติสำหรับนักเรียน จำนวน 2 ชุด จำนวน 8 ตอน 11 แผนการจัดการเรียนรู้ รวม 16 ชั่วโมง 2) แบบประเมินตนเองก่อนเรียนและหลังเรียนจำนวน 8 ชุด ตามจำนวนตอนในชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม แบบประเมินตนเองนี้ผ่านการประเมินความสอดคล้อง (IOC) จากผู้เชี่ยวชาญ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลางภาคเรียน แบบทดสอบมีค่าความยาก (p) ระหว่าง 0.49-0.89 ค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.22-0.66 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับโดยใช้สูตรคูเดอร์-ริชาร์ดสัน (KR-20) มีค่าเท่ากับ 0.839 4) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน 5) แบบประเมินความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ หน่วยการเรียนรู้ธาตุและสารประกอบ ผลการวิจัยพบว่าชุดการสอนที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 และเมื่อนำมาใช้กับกลุ่มเป้าหมายมีประสิทธิภาพ 72.90/71.81 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ดัชนีประสิทธิผลของชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรมมีค่าเท่ากับ 0.63 คิดเป็นร้อยละ 62.91 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการทางสถิติแบบ t-test Dependent Sample ผลการศึกษาพบว่าคะแนนประเมินตนเองหลังเรียนมีค่ามากกว่าคะแนนประเมินตนเองก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.34 ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.88 ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญอยู่ในระดับมากที่สุด
คำสำคัญ ชุดการสอนแบบกลุ่มกิจกรรม การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ธาตุและสารประกอบ
|
โพสต์โดย วชิ : [16 เม.ย. 2560 เวลา 10:03 น.] อ่าน [5188] ไอพี : 223.24.138.85
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 17,234 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,694 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,020 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,423 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,217 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,355 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,337 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,228 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,050 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,229 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,691 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,695 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,394 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,995 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,030 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 8,848 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,239 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,857 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,350 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,301 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|