บทคัดย่อ
ชื่อรายงานวิจัย : การพัฒนาแบบฝึกทักษะการประยุกต์วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อ
แก้ปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยม
ศึกษาศึกษาปีที่ 2
ชื่อชื่อสกุลผู้รายงานวิจัย : นางสาวอัลวาณีย์ มณีโสะ
ปีการศึกษา : 2559
.
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการประยุกต์ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวันสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อการเปรียบเทียบพัฒนาการด้านความสามารถในการประยุกต์ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และเพื่อการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนทั้งหมดหลังจากทำแบบฝึกทักษะการประยุกต์ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อน และหลังการใช้แบบฝึกทักษะที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ประชากรคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนบ้านวังสายทอง ภาคเรียนที่ 1จำนวน 11 คน เครื่องมือในการศึกษาในครั้งประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบ และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้คือค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (x̄) สถิติหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ (E1/E2)
ผลการวิจัยพบว่า
1. พบว่าแบบฝึกทักษะการประยุกต์ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ ร้อยละ 82.80 และค่าประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ร้อยละ 82.17 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2. หลังจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการประยุกต์ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน พบว่าคะแนนก่อนใช้มีค่าเฉลี่ย (x̄ = 12.73, S.D. = 2.17) และหลังใช้แบบฝึกทักษะมีคะแนนเฉลี่ย (x̄ = 23.23 , S.D.=4.23) ซึ่งมีพัฒนาการเพิ่มขึ้น 12.72 คิดเป็นร้อยละ 99.92
3. จากตารางพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะการประยุกต์ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย
(x̄ = 25.45, S.D. =4.23)
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการวิจัยไปใช้
1. จากผลการวิจัยพบว่าแบบฝึกทักษะช่วยให้นักเรียนมีความสามารถในการประยุกต์ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวันสูงขึ้น ดังนั้นการใช้แบบฝึกทักษะ ครูควรจะอธิบายการใช้แบบทักษะให้เข้าใจตรงกันอย่างละเอียดที่ถ้วนก่อนใช้ และมีการกำกับติดตามเพื่อให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมไปตามสถานการณ์ปัญหาที่กำหนดไว้ จนถึงสถานการณ์ปัญหาสุดท้ายตามลำดับอย่างเคร่งครัด และพยายามชี้แนะกำกับให้นักเรียนทำความเข้าในแนวทางการเฉลยคำตอบอย่างละเอียด จะส่งผลให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการใช้แบบฝึกทักษะ
2. สถานการณ์ปัญหาบางประการมีเวลาจำกัด ครูควรยึดหยุ่นเวลาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัญหา
ข้อเสนอแนะเพื่อการศึกษาครั้งต่อไป
1. ควรวิจัยเพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการประยุกต์ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวันกับผู้เรียนในระดับช่วงชั้นอื่นๆ และเนื้อหาอื่นๆ
2. ควรนำแบบฝึกทักษะการประยุกต์ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวันไปทดลองซ้ำกับผู้เรียนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อหาข้อสรุปที่แน่นอนยิ่งขึ้นต่อไป