ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนรายวิชาภาษาไทย โดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่าน
เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้ศึกษา นางนวพร คูณเหง้า ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนกระสังพิทยาคม อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32
ปีที่ศึกษา พ.ศ. 2558
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนรายวิชาภาษาไทยและหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และดัชนีประสิทธิผลตามเกณฑ์ 50 ประเมินความสามารถในการคิดวิเคราะห์ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านการคิดแก้ปัญหาวิเคราะห์ ด้านคุณลักษณะของผู้ที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ที่ได้รับการพัฒนาด้วยรูปแบบการสอนรายวิชาภาษาไทย โดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่าน เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และเป็นการวิจัยและพัฒนาโดยกำหนดรูปแบบการทดลองแบบหนึ่งกลุ่มทดสอบก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกระสังพิทยาคม อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) เครื่องมือสำหรับสร้างรูปแบบการสอนรายวิชาภาษาไทย คือ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ครูภาษาไทย แบบสัมภาษณ์นักเรียน แบบสรุปการสนทนากลุ่ม (2) เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนากลุ่มตัวอย่าง คือ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 เล่ม ชุดฝึกทักษะ จำนวน 11 เล่ม แบบทดสอบ จำนวน 12 ฉบับ รวม 150 ข้อ แบบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน จำนวน 5 ข้อ แบบประเมินการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนโดยครู จำนวน 14 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจนักเรียน จำนวน 24 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t (แบบไม่อิสระ) และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น คือ MOLSE Model มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระความรู้และทักษะความสามารถ สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน รูปแบบการสอนมี 5 ขั้นตอน คือ (1) ขั้นการเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ (Motivation for learning : M) (2) ขั้นจัดระเบียบการเรียนรู้ (Organizing the learning : O) (3) ขั้นเรียนรู้ด้วยการคิด (Learning by thinking : L) (4) ขั้นสรุปความรู้ (Summarizing the knowledge : S) และ (5)ขั้นประเมินผล (Evaluating the result : E) ผลการพัฒนา มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.58/85.34 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7620 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.20 สูงกว่าเกณฑ์ 50
2. ผลการเปรียบเทียบจากการพัฒนาด้วยรูปแบบการสอนรายวิชาภาษาไทย โดยใช้
ชุดฝึกทักษะการอ่าน เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ คือ (1) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยรวมและทั้ง 11 เรื่อง หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (2) นักเรียนมีการคิดวิเคราะห์อยู่ในระดับสูงมาก (3) นักเรียนมีคุณลักษณะของผู้ที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการพัฒนารูปแบบการสอนรายวิชาภาษาไทย โดยใช้
ชุดฝึกทักษะการอ่าน เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด รายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือโดยนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการพัฒนารูปแบบการสอนด้านครูผู้สอน และด้านภาพรวมของรูปแบบการสอน