|
|
เรื่องที่วิจัย : การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชื่อผู้วิจัย : ละไม โพธิ์บุตรดี
ปีที่วิจัย : 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อปรับปรุงแก้ไขชุดกิจกรรมการเรียนรู้และประเมินความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนโนนตูม รัฐราษฎร์รังสรรค์ จำนวน 33 คน ที่ได้มาโดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 เล่ม 2) คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) แบบสอบถามความคิดเห็นนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค พบว่าควรพัฒนานักเรียนด้วยวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ เพราะจะทำให้ผู้เรียนสนุกกับการเรียนรู้แบบใหม่ ๆ หลากหลายวิธีการ ไม่เกิดความเบื่อหน่าย รู้สึกสนุกสนานกับการเรียน ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนสามารถจดจำและนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค พบว่า ชุดการเรียนรู้ประกอบด้วย คำนำ สารบัญ ความสำคัญของสุขศึกษา ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง คำอธิบายรายวิชา คำแนะนำการใช้ กำหนดการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ ใบความรู้ เฉลยใบงาน เฉลยแบบทดสอบ แบบประเมินผลงานผู้เรียน โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค ที่สร้างขึ้นนี้ประกอบด้วย 6 เล่ม จากการทดลองพบว่ามีค่าประสิทธิภาพแบบรายบุคคลเท่ากับ 61.22/60.83 ค่าประสิทธิภาพกลุ่มเล็กเท่ากับ 71.22/74.44 ค่าประสิทธิภาพขั้นทดลองภาคสนามเท่ากับ 80.07/82.25
3. ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกัน ผลการทดลองใช้พบว่าค่าประสิทธิภาพขั้นทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง เท่ากับ 82.96/82.73 เมื่อศึกษาประสิทธิภาพเป็นรายเล่มพบว่า ทั้ง 6 เล่ม มีค่าประสิทธิภาพ สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
4. ผลการประเมินและปรับปรุงชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค พบว่า ผู้เรียนมีผลการเรียนรู้เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยผลการเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานการสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรคสูงกว่าก่อนเรียน
|
โพสต์โดย billboss : [28 มี.ค. 2560 เวลา 18:22 น.] อ่าน [5228] ไอพี : 115.87.104.13
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 23,184 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,501 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,997 ครั้ง
| เปิดอ่าน 46,882 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,319 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,784 ครั้ง
| เปิดอ่าน 135,122 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,765 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,324 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,873 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,672 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,267 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,513 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,613 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,787 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 7,940 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,246 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,827 ครั้ง
| เปิดอ่าน 133,834 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,929 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|