ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 มีวัตถุประสงค์ของการประเมิน 1. เพื่อประเมินสภาพแวดล้อมของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวง 2. เพื่อประเมินความพร้อมปัจจัยนำเข้า ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวง 3. เพื่อประเมินกระบวนการดำเนินการของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวง 4. เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวง 4.1 ผลที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการตามความคิดเห็นของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวง 4.2 ความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม 5 กิจกรรมของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวง และ 4.3 ความพึงพอใจในการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวงตามความคิดเห็นของครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน ผู้ให้ข้อมูลได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ประกอบด้วย ครู 12 คน กรรมการสถานศึกษา 7 คน นักเรียน 60 คน และผู้ปกครอง 60 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วย แบบสอบถาม 6 ฉบับ เป็นแบบประเมินค่า 5 ระดับ สอบถามเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ปัจจัย กระบวนการ และผลผลิตของโครงการ มีค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.873 – 0.948 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X-bar ) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเที่ยงตรง (IOC) และค่าความเชื่อมั่น (Reliability)

ผลการประเมิน

1. สภาพแวดล้อมของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวง ตามความคิดเห็นของครูและกรรมการสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar = 4.54, S.D. = 0.14) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน เว้นข้อโครงการสอดคล้องกับนโยบายและแผนงานของต้นสังกัด และข้อวัตถุประสงค์ของโครงการ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอย่างชัดเจน อยู่ในระดับมาก (X-bar = 3.68 S.D. = 0.74) และ (X-bar = 3.52 S.D. = 0.69) ตามลำดับ

2. ปัจจัยนำเข้าของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวงตามความคิดเห็นของครู และกรรมการสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X-bar = 4.00 S.D. = 0.19) เมื่อพิจารณาเป็นรายองค์ประกอบ พบว่า ทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน เว้นองค์ประกอบความพร้อมของบุคลากรอยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar = 4.74, S.D. = 0.52) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อครูเห็นความสำคัญของการอ่านว่ามีผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X-bar = 4.84, S.D. = 0.50) และข้องบประมาณที่โรงเรียนจัดสรรเพื่อจัดซื้อหนังสือ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 3.36, S.D. = 0.59)

3. กระบวนการโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวงตามความคิดเห็นของครู และกรรมการสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X-bar = 4.20, S.D. = 0.19) เมื่อพิจารณาเป็นองค์ประกอบ พบว่า ทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน โดยองค์ประกอบด้านการวางแผนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X-bar = 4.44, S.D. = 0.22) องค์ประกอบด้านการติดตามผล มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X-bar = 3.96, S.D. = 0.20) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อมีการประชุมวางแผนและประชาสัมพันธ์แผนงานโครงการให้นักเรียน ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษาได้รับทราบ และข้อมีการแบ่งหน้าที่ผู้รับผิดชอบแต่ละกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X-bar = 4.78, S.D. = 0.41) ข้อมีการประชุมนำปัญหาต่าง ๆ มาวางแผนการดำเนินโครงการ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X-bar = 3.52, S.D. = 0.84)

4. ผลผลิตของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนวัดดีหลวง ตามความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง มีดังนี้

4.1 นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมโครงการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X-bar = 3.64, S.D. = 0.24) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน เว้นข้อนักเรียนเห็นความสำคัญในการอ่านหนังสือ อยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar = 4.73, S.D. = 0.44) ข้อนักเรียนนำความรู้ที่ได้รับจากการอ่านไปเผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ ข้อนักเรียนยืมหนังสือจากห้องสมุดในโรงเรียน หรือแหล่งความรู้ต่าง ๆ ไปอ่านที่บ้าน ข้อนักเรียนจะรู้สึกหงุดหงิด เมื่อมีใครมาขัดจังหวะการอ่านหนังสือ และข้อนักเรียนชอบที่จะได้รับรางวัลเป็นหนังสือมากกว่าอย่างอื่น อยู่ในระดับปานกลาง (X-bar = 3.28, S.D. = 0.45) , (X-bar = 2.70, S.D. = 1.01) , (X-bar = 2.90, S.D. = 0.86) และ (X-bar = 3.82, S.D. = 0.57) ตามลำดับ

4.2 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (X-bar = 3.79, S.D. = 0.20) เมื่อพิจารณาเป็นรายกิจกรรม พบว่า กิจกรรมวางทุกงาน อ่านทุกคน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X-bar = 3.96, S.D. = 0.26) กิจกรรมส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X-bar = 3.62, S.D. = 0.37)

4.3 ครู กรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมตามโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X-bar = 4.42, S.D. = 0.54) เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มพบว่า ครูมีความพึงพอใจ โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X-bar = 4.47, S.D. = 0.52) รองลงมา ผู้ปกครองและกรรมการสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน (X-bar = 4.41, S.D. = 0.54), (X-bar = 4.41, S.D. = 0.64) ตามลำดับ

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. ด้านสภาพแวดล้อม นำผลการประเมินโครงการไปสร้างความตระหนักให้แก่บุคลากรในโรงเรียน นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนให้เห็นความสำคัญของโครงการ วัตถุประสงค์ของโครงการให้มีความสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมรักการอ่านของต้นสังกัด โดยการจัดอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน และประชาสัมพันธ์เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือกับทุกฝ่าย

2. ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการควรส่งเสริมและเพิ่มงบประมาณเพื่อจัดหาหนังสือ สื่อวัสดุอุปกรณ์เทคโนโลยีให้เพียงพอและเหมาะสมตามความต้องการของผู้เข้าร่วมกิจกรรม

3. ด้านกระบวนการ การดำเนินการควรจัดกิจกรรมที่เร้าความสนใจและเหมาะสมกับวัย จัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง และมีการติดตามประเมินผล วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำผลไปแก้ไขปรับปรุงในปีการศึกษาต่อ ๆ ไป

4. ด้านผลผลิต ควรส่งเสริมให้นักเรียนนำกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะนำไปสู่การบูรณาการกิจกรรมการเรียนการสอนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินหรือวิจัยในครั้งต่อไป

1. ควรประเมินโครงการที่เน้นประสิทธิผลของโครงการด้านผลผลิตและผลกระทบของโครงการ เพื่อเป็นข้อมูลสารสนเทศในการพัฒนาโครงการต่อไป

2. ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับรูปแบบและวิธีการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านในสถานศึกษา โดยมุ่งส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้การอ่านในกระบวนการเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้

3. ควรใช้รูปแบบประเมินโครงการในรูปแบบอื่น ๆ มาศึกษาเรื่องการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านในสถานศึกษา เพื่อเป็นข้อเท็จจริงในการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ

โพสต์โดย หวิน : [28 มี.ค. 2560 เวลา 16:51 น.]
อ่าน [5551] ไอพี : 1.46.137.140
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,449 ครั้ง
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!

เปิดอ่าน 14,275 ครั้ง
นี่คือ 5 เหตุผล ทำไมผู้ใหญ่เล่นโซเชียล แล้วอันตรายกว่าวัยรุ่น
นี่คือ 5 เหตุผล ทำไมผู้ใหญ่เล่นโซเชียล แล้วอันตรายกว่าวัยรุ่น

เปิดอ่าน 13,869 ครั้ง
ดูพี่ตำรวจเค้าทำ รถเกือบชนกันระนาว !
ดูพี่ตำรวจเค้าทำ รถเกือบชนกันระนาว !

เปิดอ่าน 4,666 ครั้ง
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!

เปิดอ่าน 15,829 ครั้ง
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้ข้าราชการไปศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัยและดูงาน ณ ต่างประเทศ พ.
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้ข้าราชการไปศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัยและดูงาน ณ ต่างประเทศ พ.

เปิดอ่าน 21,797 ครั้ง
คลอสตริเดียม โบทูลินัม เชื้อโรคร้ายในอาหารกระป๋อง
คลอสตริเดียม โบทูลินัม เชื้อโรคร้ายในอาหารกระป๋อง

เปิดอ่าน 34,696 ครั้ง
ขนาดของหน่วยความจำและขนาดของภาพเมื่อนำไปอัด
ขนาดของหน่วยความจำและขนาดของภาพเมื่อนำไปอัด

เปิดอ่าน 10,268 ครั้ง
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์

เปิดอ่าน 22,609 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549

เปิดอ่าน 20,794 ครั้ง
ข้อกำหนดวินัย และการดำเนินการทางวินัย การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ข้อกำหนดวินัย และการดำเนินการทางวินัย การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 51,151 ครั้ง
พรบ.ครู(ฉบับที่2) 2551 มีผล 21 กุมภาพันธ์ 2551
พรบ.ครู(ฉบับที่2) 2551 มีผล 21 กุมภาพันธ์ 2551

เปิดอ่าน 26,809 ครั้ง
โลกออนไลน์แชร์ สุดยอดคุณครู! ตรวจการบ้านลูกศิษย์ละเอียดยิบ
โลกออนไลน์แชร์ สุดยอดคุณครู! ตรวจการบ้านลูกศิษย์ละเอียดยิบ

เปิดอ่าน 45,672 ครั้ง
ไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยมืออีกต่อไป Google Docs ให้เราพิมพ์ข้อความด้วยการพูดบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ดูวิธีใช้
ไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยมืออีกต่อไป Google Docs ให้เราพิมพ์ข้อความด้วยการพูดบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ดูวิธีใช้

เปิดอ่าน 22,076 ครั้ง
อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้
อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้

เปิดอ่าน 14,373 ครั้ง
ตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องของ iPhone 5
ตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องของ iPhone 5

เปิดอ่าน 193,578 ครั้ง
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
เปิดอ่าน 10,461 ครั้ง
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.
เปิดอ่าน 17,107 ครั้ง
 สะพานซังฮี้  ซังฮี้แปลว่าอะไร?
สะพานซังฮี้ ซังฮี้แปลว่าอะไร?
เปิดอ่าน 45,749 ครั้ง
อารยธรรมกรีกโบราณ
อารยธรรมกรีกโบราณ
เปิดอ่าน 9,974 ครั้ง
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ