ชื่อรายงานการวิจัย การจัดทำเอกสารประกอบการเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 3 (ว 22101)
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้จัดทำ อานีตา ปาเก
ปีที่เผยแพร่ ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
รายงานการวิจัยเรื่องจัดทำเอกสารประกอบการเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 3 (ว 22101) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนที่จัดทำขึ้นให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาเปรียบเทียบผลการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนจากการใช้เอกสารประกอบการเรียนที่ได้จัดทำขึ้น 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนในการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนที่ได้จัดทำขึ้น
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนที่เรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 3 (ว 22101) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา2558 จำนวน 23 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
1) เอกสารประกอบการเรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 3 (ว 22101) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีเครื่องมือในการศึกษา ประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน กิจกรรมการเรียน และแบบทดสอบหลังเรียน
2) แบบประเมินคุณภาพของเอกสารประกอบการเรียนโดยผู้เชี่ยวชาญ
3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนในการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบกาเรียนที่จัดทำขึ้น
วิธีดำเนินการวิจัยมีขั้นตอน ดังนี้
1) ทดสอบก่อนเรียนโดยทดสอบก่อนที่จะเรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์3 (ว 22101)
2) นำเอกสารประกอบการเรียน ไปใช้กับนักเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โดยใช้ประกอบการเรียนการสอนในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้โดยให้นักเรียนศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียนเริ่มจากศึกษาคำชี้แจง ทำแบบทดสอบก่อนเรียน และทำกิจกรรมแล้วเก็บคะแนนเป็นรายหน่วยการเรียนรู้ เมื่อเรียนจบแต่ละหน่วยการเรียนรู้แล้วให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน แล้วเก็บคะแนนไว้เพื่อประมวลผลต่อไป
3) เมื่อนักเรียนเรียนจบแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ให้นักเรียนประเมินความพึงพอใจในการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนแล้วเก็บไว้เพื่อประเมินผลต่อไป
4) ทดสอบหลังเรียนเมื่อเรียนจบสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์3 (ว 22101) แล้ว
5) ประมวลผลการศึกษาในทุกหน่วยการเรียนรู้โดยศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน นำผลการเรียนระหว่างเรียนเปรียบเทียบกับผลการเรียนหลังเรียน และศึกษาผลการเรียนก่อนเรียน เปรียบเทียบกับผลการเรียนหลังเรียน และประมวลผลการประเมินผลความพึงพอใจ
วิเคราะห์และสรุปผลการวิจัย
ผลการศึกษาพบว่า 1) การศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนที่จัดทำขึ้นโดยพิจารณาการเปรียบเทียบผลการเรียนระหว่างเรียนและหลังเรียนปรากฏว่า ผลการเรียนของนักเรียนระหว่างเรียนได้คะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 81.72 และหลังเรียนได้คะแนนร้อยละ 80.87 แสดงว่าเอกสารประกอบการเรียนมีประสิทธิภาพ 81.72/80.87 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ เท่ากับ 80/80 ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 2) ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน หรือการหาค่าพัฒนาในการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ปรากฏว่า ผลการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน กล่าวคือ ผลการเรียนก่อนเรียนเฉลี่ยร้อยละ 46.70 และผลการเรียนหลังเรียน ร้อยละ 80.87 โดยมีค่า t เท่ากับ 6.91 ระดับความเชื่อมั่นที่ 0.01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ และ3) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนในการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ปรากฏว่านักเรียนมีความพึงพอใจโดยเฉลี่ยทุกๆหน่วยเท่ากับ 4.57 ( 4.57 0.11 ) ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด