|
|
ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M เพื่อส่งเสริมทักษะ
การคิดเชิงเหตุผลสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2
ผู้วิจัย นางดวงจันทร์ ยอดสะอึ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น
ปีที่พิมพ์ 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายของการวิจัยเพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงเหตุผลสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 2) ศึกษาประสิทธิผล ของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M มีวิธีดำเนินการวิจัย 5 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยการสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ระยะที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M โดยศึกษาและวิเคราะห์เนื้อหาเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านการพัฒนาสติปัญญาการคิดเชิงเหตุผล สร้างรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4 M จากนั้นประเมินรูปแบบด้วยแบบประเมินค่าความเหมาะสม 5 ระดับ เป็นเครื่องมือการวิจัย กับผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 3 การสร้างและพัฒนาเครื่องมือประกอบการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M คือ แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ แบบทดสอบทักษะการคิด เชิงเหตุผล รวมทั้งมีการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M เพื่อส่งเสริมการคิด เชิงเหตุผลสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ทดลองใช้กับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีอายุ 5 6 ปี โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น จำนวน 50 คน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ปรับปรุงแก้ไขแล้วนำไปทดลองใช้ครั้งที่ 2 กับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M ก่อนนำไปทดสอบประสิทธิผล ระยะที่ 4 การศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M โดยทำการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 50 คน โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย แบ่งเป็นกลุ่มทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M จำนวน 25 คน กลุ่มควบคุมการใช้การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบปกติจำนวน 25 คน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t test for dependent samples และ t test for independent samples ระยะที่ 5 การขยายผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M ในสภาพจริงให้กับครูปฐมวัยที่สอนนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 6 คน แสดงความคิดเห็นในรูปแบบประเมินค่าความเหมาะสมของรูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M 2) แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M โดยผู้เชี่ยวชาญและครูปฐมวัย 3) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M 4) แบบทดสอบทักษะ การคิดเชิงเหตุผลสำหรับนักเรียน ชั้นอนุบาลปีที่ 2
ผลการวิจัยพบว่า
1. การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M พบว่า สามารถนำไปส่งเสริมทักษะการคิดเชิงเหตุผลสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ได้ ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญโดยค่าดัชนี ความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00 4.80
2. การศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M พบว่า นักเรียน ชั้นอนุบาลปีที่ 2 กลุ่มทดลองมีทักษะการคิดเชิงเหตุผล หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และกลุ่มทดลองมีทักษะการคิดเชิงเหตุผลสูงกว่ากลุ่มควบคุม หลังการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ด้านการขยายผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 4M ไปใช้ในสภาพจริง พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมากถึงมากที่สุด ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00 4.67 สามารถนำไปใช้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดเชิงเหตุผลในเชิงปฏิบัติกับเด็กปฐมวัยได้
|
โพสต์โดย น้อย : [24 มี.ค. 2560 เวลา 15:43 น.] อ่าน [5392] ไอพี : 119.76.112.36
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 13,723 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,900 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,580 ครั้ง
| เปิดอ่าน 292,910 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,442 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,064 ครั้ง
| เปิดอ่าน 88,834 ครั้ง
| เปิดอ่าน 878 ครั้ง
| เปิดอ่าน 86,485 ครั้ง
| เปิดอ่าน 97,361 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,453 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,273 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,541 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,453 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,698 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 2,812 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,903 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,238 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,298 ครั้ง
| เปิดอ่าน 112,438 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|