บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก
การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านลากอ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๗๕/๗๕ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านลากอ และ ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านลากอ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านลากอ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๒ ในภาคเรียนที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๓๐ คน ที่ผู้รายงานเป็นครูประจำวิชา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ๑) แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ
การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๖ ชุด ๒) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การบวก การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๒๑ แผน ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การบวก การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน ๓๐ ข้อ และ ๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ การคูณทศนิยม จำนวน ๑๒ ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ คือ ค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ
ผลการศึกษาพบว่า
๑) ประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) มีค่าเท่ากับ ๗๖.๐๖ และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) มีค่าเท่ากับ ๗๕.๖๑ ดังนั้น ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ
การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านลากอ มีค่าเท่ากับ ๘๗.๔๑ /๘๕.๑๗
๒) การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง
การบวก การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ก่อนเรียนเฉลี่ย ๘.๘๗ และมีคะแนนหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ ๒๑.๘๐ ๓) ระดับความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์เรื่องการบวก การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านลากอ เฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๙ คิดเป็นร้อยละ ๘๗.๘๐
ข้อเสนอแนะ
๑) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ควรนำชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์เรื่องการบวก การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ไปประยุกต์ใช้สำหรับเสริมทักษะคณิตศาสตร์เรื่องการบวก การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เพราะจากผลการศึกษายืนยันได้ถึงความสำเร็จในการนำไปใช้แล้ว คือ การมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๗๖.๐๖/๗๕.๖๑ สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการบวก การลบ การคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ให้สูงขึ้นได้ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
๒) จากการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนพบว่าการจัดกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจ มีระดับความพึงพอใจต่ำสุด ซึ่งอาจอธิบายได้ว่า การจัดกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจยังมีความไม่เหมาะสมบางประการจนส่งผลให้นักเรียนยังไม่พึงพอใจเท่าที่ควร ดังนั้น ครูผู้สอนหรือผู้ที่ต้องการนำไปใช้ควรให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจเพื่อให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถดึงดูดความสนใจนักเรียนให้ทำงานได้อย่างมีความสุขและเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป