ผู้วิจัย สิบโทศักดา แจ่มแจ้ง
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยกระบวนการบริหาร
แบบ PDCISA เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาล
เทศบาลด่านสำโรง
ปีที่ทำการวิจัย 2558 - 2559
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อวิเคราะห์สภาพและความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยกระบวนการบริหารแบบ PDCISA เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยกระบวนการบริหารแบบ PDCISA เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง 4) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยกระบวนการบริหารแบบ PDCISA เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง โดยทดลองใช้รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยกระบวนการบริหารแบบ PDCISA เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง กับนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง ปีการศึกษา 2559 จำนวน 351 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยกระบวนการบริหารแบบ PDCISA เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง 2) แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง และ3) แบบประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยกระบวนการบริหารแบบ PDCISA เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis)
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. สภาพและความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า โรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง ดำเนินการตามกระบวนการของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5 ประการ คือ การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรองนักเรียน การส่งเสริมนักเรียน การป้องกันและแก้ไขปัญหา และการส่งต่อ การบริหารใช้หลักการบริหารคุณภาพ 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผน การดำเนินงาน การตรวจสอบประเมินผล และการปรับปรุงพัฒนา และผู้เกี่ยวข้องมีความคิดเห็นว่าครูที่ปรึกษายังไม่รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลครบทุกห้องเรียน และไม่สามารถคัดกรองนักเรียนออกเป็นกลุ่มต่างๆ ได้ ร่วมทั้งการจัดกิจกรรมดูแลช่วยเหลือนักเรียนไม่ครบทุกห้องเรียน และไม่มีการรายงานผลตามปฏิทินการปฏิบัติงาน
2. สภาพและความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ อยู่ในระดับดีถึงดีเยี่ยมทุกข้อ แต่ก็ยังมีนักเรียนจำนวนมากที่มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์อยู่ในระดับผ่านหลายข้อ ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่โรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรงกำหนดไว้ มีนักเรียนบางส่วนมีความบกพร่องในเรื่องคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซึ่งโดยเฉพาะการมาโรงเรียนสาย การไม่ส่งงานตามเวลา การแต่งกายไม่เรียบร้อย การไม่เข้าแถวตามลำดับก่อนหลัง การพูดหยาบคายกับเพื่อนร่วมชั้น การวิ่งเล่นบนอาคารเรียน การทะเลาะวิวาท เป็นต้น
3. รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยกระบวนการบริหารแบบ PDCISA เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง มี 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) Planning : P (การวางแผน) 2) Designing : D (ออกแบบการทำงาน) 3) Communication : C (การให้ความรู้) 4) Implementation : I (การดำเนินงาน) 5) Subservience Supporting : S (การส่งเสริมสนับสนุน) และ 6) Assessment : A (การประเมินผล)
4. ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยกระบวนการบริหารแบบ PDCISA เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง พบว่า ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนร้อยละ100 ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนทั้ง 9 ข้อ โดยนักเรียนร้อยละ 92.94 มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีถึงดีเยี่ยม และนักเรียนร้อยละ 7.06 มีผลการประเมินอยู่ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน และ มีความคิดเห็นว่าควรส่งเสริมการให้ความรู้และมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้อำนวยการสถานศึกษาควรเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ และต้องติดตามทบทวนความเข้าใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง จัดโครงสร้างการทำงาน มีผู้รับผิดชอบทุกขั้นตอน เสริมสร้างความเข้มแข็งและกำหนดขั้นตอนการประสานงานอย่างชัดเจน และสนับสนุนสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ ให้เพียงพอทันต่อการใช้งาน การประเมินผลเน้นการประเมินแบบมีส่วนร่วม และกำหนดกรอบขอบเขตการประเมินผล และให้โอกาสผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการนำเสนอและยอมรับกรอบการดำเนินงานร่วมกัน