ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

โดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558

ผู้รายงาน : ว่าที่ร้อยตรีหญิงชนัตพร วงศ์ทิม

รองผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพระมหาธาตุ

ปีที่รายงาน : ปีการศึกษา 2558

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน ด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) คุณภาพการดำเนินงานพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน 2) การมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู ผู้ปกครองในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน 4) ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ต่อการดำเนินโครงการการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โดยใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วย นักเรียน จำนวน 1,216 คน ครูผู้สอน จำนวน 86 คน ผู้ปกครอง จำนวน 1,216 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน และประชากรผู้ทรงคุณวุฒิของโรงเรียน จำนวน 10 คนเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินจำนวน 8 ฉบับ ประกอบด้วย แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จำนวน 6 ฉบับ และแบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 2 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.951 – 0.979 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินสรุปได้ ดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านบริบทโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 ตามความคิดเห็นของครูและผู้ทรงคุณวุฒิโรงเรียนวัดพระมหาธาตุ โดยภาพรวม ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดอยู่ในระดับมากที่สุด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มครูมีความคิดเห็นว่าด้านบริบท ของโครงการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ( = 4.65, S.D. = .64) ได้คะแนน 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน และรองลงมา คือ กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิโรงเรียนวัดพระมหาธาตุ มีความคิดเห็นว่าบริบทของโครงการมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ( = 4.57,  = .76) ได้คะแนน 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 ตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59, S.D. = .70) ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็น รายด้านพบว่า ด้านหน่วยงานที่สนับสนุนมีค่าเฉลี่ยสูงสุดในระดับมากที่สุด ( = 4.66, S.D. = .66) รองลงมา ได้แก่ ด้านวัสดุอุปกรณ์และอาคารสถานที่ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.58, S.D. = .70) ส่วนด้านการบริหารจัดการ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = .71) ทุกด้านผ่านเกณฑ์การประเมิน

3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 ตามความคิดเห็น ของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ ที่กำหนดอยู่ในระดับมากที่สุด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มนักเรียนและผู้ปกครองมีความคิดเห็นว่า ด้านกระบวนการของโครงการมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ( = 4.57, S.D. = .73,.71) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน รองลงมา คือ กลุ่มครู มีความคิดเห็นว่า ด้านกระบวนการของโครงการมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ( = 4.56, S.D. = .69) ได้คะแนน 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

4. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 จำแนกเป็น

4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลผลผลิตเกี่ยวกับคุณภาพการดำเนินงานพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด ที่ประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มครู และกลุ่มผู้ปกครองมีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพการดำเนินงานพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 ว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ( = 4.55, S.D. = .69,.73) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน รองลงมาและมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กลุ่มนักเรียนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพการดำเนินงานพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 ว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ( = 4.54, S.D. = .76) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลผลผลิตเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัด พระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมินเมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มนักเรียนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 ว่า มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ( = 4.58, S.D. = .72) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน รองลงมา คือ กลุ่มครู และกลุ่มผู้ปกครองมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 มีคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ( = 4.53, S.D. = .68, .69) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน

4.3 ผลการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โดยภาพรวม ปีการศึกษา 2558 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2557 เพิ่มขึ้น +0.49 และ +1.52 ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ประเด็นการประเมิน และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O – NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557-2558 พบว่า ค่าเฉลี่ย ปีการศึกษา 2558 สูงกว่าค่าเฉลี่ย ปีการศึกษา 2557 ทั้งชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพิ่มขึ้น +1.05 และ +4.53 ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ประเด็นการประเมิน

4.4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับความพึงพอใจในการดำเนินโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มผู้ปกครองมีความพึงพอใจในการดำเนินโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ( = 4.68, S.D. = .63) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน รองลงมา คือ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความพึงพอใจในการดำเนินโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ปีการศึกษา 2558 อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวม ( = 4.57, S.D. = .59) ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน ส่วนกลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.52, S.D. = .68) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ได้คะแนน 10 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกรายการที่ประเมิน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา เพื่อกำหนดเป็นแนวทางในการพัฒนารายงานการประเมินโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ SCoRE Model ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. ควรนำขั้นตอนการดำเนินงานตามกลยุทธ์ SCoRE Model ให้กับโรงเรียนอื่นๆ ที่มีพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน และมีบริบทใกล้เคียงกับโรงเรียนวัดพระมหาธาตุ เพื่อประยุกต์ใช้ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

3. ควรนำผลการประเมินโครงการเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือหน่วยงานอื่นๆ ได้รับทราบเพื่อให้การสนับสนุน และเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

ข้อเสนอแนะในการประเมินหรือวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรมีการศึกษา ค้นคว้าและวิจัยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้เทคนิคและรูปแบบอื่นๆ

2. ควรศึกษาปัจจัยหรือสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

โพสต์โดย utchara : [16 มี.ค. 2560 เวลา 15:37 น.]
อ่าน [67327] ไอพี : 223.204.148.102
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,704 ครั้ง
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!

เปิดอ่าน 19,512 ครั้ง
10 งานด่วนภายใน 6 เดือนที่ "รมต.ศธ." ควรทำ
10 งานด่วนภายใน 6 เดือนที่ "รมต.ศธ." ควรทำ

เปิดอ่าน 570 ครั้ง
ขอบยาง (Tire Bead) คืออะไร มีส่วนสำคัญอย่างไรในยางรถยนต์
ขอบยาง (Tire Bead) คืออะไร มีส่วนสำคัญอย่างไรในยางรถยนต์

เปิดอ่าน 560 ครั้ง
นิยายวาย แฟนตาซี ความมหัศจรรย์ที่รอให้สาววายค้นพบ
นิยายวาย แฟนตาซี ความมหัศจรรย์ที่รอให้สาววายค้นพบ

เปิดอ่าน 4,092 ครั้ง
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน

เปิดอ่าน 20,268 ครั้ง
ยุบ ศธจ.ศจภ? : การทับซ้อนของอำนาจบริหาร? โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก
ยุบ ศธจ.ศจภ? : การทับซ้อนของอำนาจบริหาร? โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก

เปิดอ่าน 10,184 ครั้ง
กว่าจะเป็นลี กวน ยิว และกว่าจะเป็นสิงคโปร์ในปัจจุบัน
กว่าจะเป็นลี กวน ยิว และกว่าจะเป็นสิงคโปร์ในปัจจุบัน

เปิดอ่าน 607 ครั้ง
รู้จักกับ Toyota Yaris Ativ ใหม่ กับ 5 ข้อดีที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อ
รู้จักกับ Toyota Yaris Ativ ใหม่ กับ 5 ข้อดีที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อ

เปิดอ่าน 32,739 ครั้ง
ดูลายมือ "เส้นวาสนา"
ดูลายมือ "เส้นวาสนา"

เปิดอ่าน 10,339 ครั้ง
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้รอดพ้นโรคร้ายได้มากถึง1ใน5
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้รอดพ้นโรคร้ายได้มากถึง1ใน5

เปิดอ่าน 78,532 ครั้ง
อำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด
อำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด

เปิดอ่าน 12,726 ครั้ง
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี

เปิดอ่าน 17,287 ครั้ง
เมนู "ปลาทู" ใกล้ตัวอุดมโอเมก้า-3
เมนู "ปลาทู" ใกล้ตัวอุดมโอเมก้า-3

เปิดอ่าน 1,014 ครั้ง
การเรียนภาษาไทย พื้นฐานสำคัญการสื่อสาร และวัฒนธรรมไทย
การเรียนภาษาไทย พื้นฐานสำคัญการสื่อสาร และวัฒนธรรมไทย

เปิดอ่าน 10,851 ครั้ง
"กานพลู" เครื่องเทศ ต่อต้านอนุมูลอิสระ
"กานพลู" เครื่องเทศ ต่อต้านอนุมูลอิสระ

เปิดอ่าน 72,694 ครั้ง
"ซัคเกอร์"..ตัวอันตราย รุกทำลายสัตว์น้ำไทย
"ซัคเกอร์"..ตัวอันตราย รุกทำลายสัตว์น้ำไทย
เปิดอ่าน 20,513 ครั้ง
สุขภาพเป็นยังไง...ลิ้นบอกได้
สุขภาพเป็นยังไง...ลิ้นบอกได้
เปิดอ่าน 11,033 ครั้ง
"ส้มตำ" มีมานานหรือยัง?
"ส้มตำ" มีมานานหรือยัง?
เปิดอ่าน 18,423 ครั้ง
กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?
กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?
เปิดอ่าน 12,150 ครั้ง
"ขี้เหล็ก" ช่วยระบาย-สงบประสาท แต่ไม่ใช่ "ยานอนหลับ" โดยตรง
"ขี้เหล็ก" ช่วยระบาย-สงบประสาท แต่ไม่ใช่ "ยานอนหลับ" โดยตรง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ