ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อ

ผู้วิจัย นางสาวดาวรรณ น้อยก่ำ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

โรงเรียนบ้านโคกสงเปือยดอนดู่วิทยา ตำบลทุ่งชมพู อำเภอภูเวียง

จังหวัดขอนแก่น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5

ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง บทประยุกต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อศึกษากระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ให้จำนวนนักเรียนร้อยละ 70 ขึ้นไป มีผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 5 จำนวน 20 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านโคกสงเปือยดอนดู่วิทยา ตำบลทุ่งชมพู อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตามแนวคิดทฤษฎี คอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง บทประยุกต์ จำนวน 12 แผน 2 ) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ / แบบบันทึกประจำวัน ผลงานนักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบบันทึกผลการประเมินด้านกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ แบบสัมภาษณ์ และแบบทดสอบท้ายวงจร 3 ) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการเรียนรู้ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และสรุปความเรียง

ผลการวิจัย พบว่า

1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตามแนว คิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ วิสต์ เรื่องบทประยุกต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้ 1) ขั้นนำ 2) ขั้นสอน ประกอบด้วยกิจกรรม 3 ขั้นตอน (1) เผชิญสถานการณ์ปัญหาและแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล (2) กิจกรรมไตร่ตรองระดับกลุ่มย่อย (3) กิจกรรมไตร่ตรองระดับชั้นเรียน 3) ขั้นสรุปผล

2. การศึกษากระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ พบว่า นักเรียนทำแบบทดสอบขั้นการทำความเข้าใจหรือวิเคราะห์ปัญหา ได้มากที่สุด คิดเป็นคะแนนร้อยละ 100 รองลงมาคือขั้นการวางแผนการแก้ปัญหา และการตรวจสอบ คิดเป็นคะแนนร้อยละ 70 เท่ากัน และขั้นที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ ขั้นการดำเนินการแก้ปัญหา คิดเป็นคะแนนร้อยละ 65 โดยภาพรวมแล้วนักเรียนมีคะแนนกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์คิดเป็นร้อยละ 76

3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เฉลี่ยร้อยละ 77.92 และนักเรียนจำนวนร้อยละ 90 ของนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป

โพสต์โดย ตาดำ : [15 มี.ค. 2560 เวลา 19:39 น.]
อ่าน [5185] ไอพี : 182.232.224.147
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,787 ครั้ง
"ข้าวลืมผัว"อร่อยจนลืมผัว ข้าวชาวเขา ที่ชาวเมืองก็ควรกิน
"ข้าวลืมผัว"อร่อยจนลืมผัว ข้าวชาวเขา ที่ชาวเมืองก็ควรกิน

เปิดอ่าน 13,760 ครั้ง
เคล็ดลับคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก
เคล็ดลับคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก

เปิดอ่าน 33,290 ครั้ง
น่ารักครับ! ลูกใช้หลักอริยสัจ 4 แนะทางออกแก้ปัญหาแม่ติดโทรศัพท์
น่ารักครับ! ลูกใช้หลักอริยสัจ 4 แนะทางออกแก้ปัญหาแม่ติดโทรศัพท์

เปิดอ่าน 20,723 ครั้ง
คุณครูหายไปไหนครับ?
คุณครูหายไปไหนครับ?

เปิดอ่าน 6,743 ครั้ง
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL

เปิดอ่าน 32,457 ครั้ง
หลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก่อนแต่งตั้งให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ
หลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก่อนแต่งตั้งให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ

เปิดอ่าน 28,705 ครั้ง
ทำความเข้าใจ เกณฑ์ย้ายครู ว16/2558 เริ่มใช้เดือนมกราคม 2559
ทำความเข้าใจ เกณฑ์ย้ายครู ว16/2558 เริ่มใช้เดือนมกราคม 2559

เปิดอ่าน 350,707 ครั้ง
สุภาษิตพระร่วง
สุภาษิตพระร่วง

เปิดอ่าน 17,950 ครั้ง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง

เปิดอ่าน 20,499 ครั้ง
ต้นกำเนิดของปลา
ต้นกำเนิดของปลา

เปิดอ่าน 10,528 ครั้ง
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม

เปิดอ่าน 21,163 ครั้ง
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 17,300 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://

เปิดอ่าน 14,868 ครั้ง
เผยทีเด็ดชนะใจสาวอย่างง่ายที่สุด เล่าเรื่องตลกที่ ตัวเองหน้าแตก
เผยทีเด็ดชนะใจสาวอย่างง่ายที่สุด เล่าเรื่องตลกที่ ตัวเองหน้าแตก

เปิดอ่าน 1,731 ครั้ง
Water Fasting คืออะไร ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า
Water Fasting คืออะไร ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า

เปิดอ่าน 44,723 ครั้ง
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร
เปิดอ่าน 21,857 ครั้ง
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?
เปิดอ่าน 38,088 ครั้ง
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
เปิดอ่าน 12,159 ครั้ง
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
เปิดอ่าน 12,485 ครั้ง
สาว 6 อาชีพกับเส้นเลือดขอด
สาว 6 อาชีพกับเส้นเลือดขอด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ