ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะการสังเกตและทักษะ การจำแนกประเภทของเด็กปฐมวัยชั้นอ

ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะการสังเกตและทักษะ

การจำแนกประเภทของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2

ชื่อผู้ศึกษา รัชนีย์วรรณ์ ตติยนันตกุล

ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านเวียงพาน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3

ปีที่รายงาน พ.ศ. 2559

ในการศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะการสังเกตและทักษะการจำแนกประเภทของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะการสังเกตและทักษะการจำแนกประเภทของเด็กปฐม ศึกษาระดับทักษะการสังเกตและทักษะการจำแนกของเด็กปฐมวัยโดยรวมและจำแนกรายทักษะหลังการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์และเปรียบเทียบทักษะการสังเกตและทักษะการจำแนกของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์การศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีการวิจัยกึ่งทดลองแบบ 1 กลุ่ม มีการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน (One Group Pretest-Posttest Design) ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นเด็กปฐมวัย ชาย-หญิงอายุระหว่าง 5-6 ปีกำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านเวียงพาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วยชุดกิจกรรมและแผนการจัดกิจกรรมด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์และแบบประเมินทักษะการสังเกตและการจำแนกประเภท ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยการประเมินทักษะการสังเกตและทักษะการจำแนกประเภท ก่อนที่จะจัดกิจกรรมและหลังการจัดกิจกรรมด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์และแผนการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าความถี่ ค่าผลรวมและค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและ วิเคราะห์ความแตกต่างผลการประเมินก่อนการเรียนและหลังเรียน โดยใช้การหาค่าเฉลี่ยและร้อยละของความแตกต่าง

สรุปผลการศึกษา

1. ผลการวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะการสังเกตและทักษะการจำแนกประเภทของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 พบว่า มีค่าเท่ากับ 0.86 หรือ ร้อยละ 86

2. ทักษะการสังเกตหลังการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ อยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย 2.70 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.32)

3. ทักษะการจำแนกประเภทโดยรวม หลังการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ อยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย 2.71 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.19)

4. การเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยทักษะการสังเกต ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุด

กิจกรรมวิทยาศาสตร์ พบว่า ค่าเฉลี่ยรวมหลังเรียนอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย 2.68 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.34) สูงกว่าก่อนเรียน ที่อยู่ในระดับพอใช้ (ค่าเฉลี่ย 1.66 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.18) โดยมีค่าเฉลี่ยความแตกต่างเท่ากับ 1.02 คิดเป็นร้อยละ 33.97

5. การเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยทักษะการจำแนกก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุด

กิจกรรมวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 พบว่า ค่าเฉลี่ยรวมหลังเรียนอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย 2.71 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.19) สูงกว่าก่อนเรียน ที่อยู่ในระดับพอใช้ (ค่าเฉลี่ย 1.73 และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.23) โดยมีค่าเฉลี่ยความแตกต่างเท่ากับ 0.98 คิดเป็นร้อยละ 32.74

โพสต์โดย ขวัญ : [14 มี.ค. 2560 เวลา 15:02 น.]
อ่าน [67961] ไอพี : 1.0.128.25
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 30,881 ครั้ง
โหมดสี
โหมดสี

เปิดอ่าน 33,214 ครั้ง
จับเดรสให้แมทช์กับรูปร่างของคุณ (Dress Your Body Shape)
จับเดรสให้แมทช์กับรูปร่างของคุณ (Dress Your Body Shape)

เปิดอ่าน 48,276 ครั้ง
ศีล-สมาธิ-ปัญญา...คืออะไร
ศีล-สมาธิ-ปัญญา...คืออะไร

เปิดอ่าน 52,723 ครั้ง
140 ที่สุดในโลก
140 ที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 12,009 ครั้ง
เผยโฉมอินเตอร์เฟซของ Google Pad
เผยโฉมอินเตอร์เฟซของ Google Pad

เปิดอ่าน 21,679 ครั้ง
ภาษาพูด
ภาษาพูด

เปิดอ่าน 838 ครั้ง
5 แบรนด์แก้วทัมเบลอร์ในราคาคุ้มค่า ควรเลือกมาใช้งาน
5 แบรนด์แก้วทัมเบลอร์ในราคาคุ้มค่า ควรเลือกมาใช้งาน

เปิดอ่าน 17,317 ครั้ง
เครื่องเรือน อาวุธ และเครื่องนุ่งห่มกับตัวไม้ประกอบเรือนของชาวสยาม
เครื่องเรือน อาวุธ และเครื่องนุ่งห่มกับตัวไม้ประกอบเรือนของชาวสยาม

เปิดอ่าน 19,478 ครั้ง
มารู้จัก GAT และ PAT กันดีกว่า
มารู้จัก GAT และ PAT กันดีกว่า

เปิดอ่าน 21,862 ครั้ง
ประโยชน์ต้นอ่อนทานตะวัน
ประโยชน์ต้นอ่อนทานตะวัน

เปิดอ่าน 47,783 ครั้ง
พืชสมุนไพรพื้นบ้าน
พืชสมุนไพรพื้นบ้าน

เปิดอ่าน 10,503 ครั้ง
ทำอย่างไรการเรียนรู้จึงเกิดขึ้นกับคนทั้งประเทศ โดย นพ.ประเวศ วะสี
ทำอย่างไรการเรียนรู้จึงเกิดขึ้นกับคนทั้งประเทศ โดย นพ.ประเวศ วะสี

เปิดอ่าน 36,921 ครั้ง
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022

เปิดอ่าน 24,595 ครั้ง
ความหมายของมัลติมีเดีย
ความหมายของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 6,295 ครั้ง
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม

เปิดอ่าน 15,080 ครั้ง
คนขับรถเมล์ เป็นลมขณะขับรถ ผู้โดยสารช่วยกันประคองรถวุ่น
คนขับรถเมล์ เป็นลมขณะขับรถ ผู้โดยสารช่วยกันประคองรถวุ่น
เปิดอ่าน 27,705 ครั้ง
อนาคตหนังสือเรียนไทยในยุคก้าวไกลของ IT
อนาคตหนังสือเรียนไทยในยุคก้าวไกลของ IT
เปิดอ่าน 729 ครั้ง
เช็ก 6 ข้อดี ทำไม Invisalign จึงเหมาะกับเด็กวัยเรียน ?
เช็ก 6 ข้อดี ทำไม Invisalign จึงเหมาะกับเด็กวัยเรียน ?
เปิดอ่าน 46,547 ครั้ง
ทำไม "บาแก็ตต์" หรือ "ขนมปังฝรั่งเศส" จึงทำเป็นแท่งยาว?
ทำไม "บาแก็ตต์" หรือ "ขนมปังฝรั่งเศส" จึงทำเป็นแท่งยาว?
เปิดอ่าน 6,147 ครั้ง
ฝึกกล้ามเนื้อเข่าให้แข็งแรง ช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บข้อเข่าจากกีฬา
ฝึกกล้ามเนื้อเข่าให้แข็งแรง ช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บข้อเข่าจากกีฬา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ