การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1. เพื่อสร้างและพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูปวิชาชีววิทยา
เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปร่วมกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยบทเรียนสำเร็จรูปร่วมกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 37 คน จาก 1 ห้องเรียน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ( Purposive Sampling ) ใช้รูปแบบการสอนแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาชีววิทยา เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย จำนวน 10 แผน 2) บทเรียนสำเร็จรูป
วิชาชีววิทยา เรื่องการรักษาดุลยภาพในร่างกาย จำนวน 10 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 50 ข้อ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยบทเรียนสำเร็จรูปร่วมกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t test (Dependent Samples)
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 94.11/89.35 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7685 หมายความว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7685
คิดเป็นร้อยละ 76.85
3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียน
ที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูปร่วมกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยบทเรียนสำเร็จรูปร่วมกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย พบว่า ด้านสาระการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ด้านรูปแบบ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72 อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ด้านการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.66 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก ด้านการเป็นสื่อการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77 อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด และด้านการวัดผลประเมินผล มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.46 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก เมื่อสรุปโดยรวมพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อบทเรียนสำเร็จรูปวิชาชีววิทยา
เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.68 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก โดยสรุปการใช้บทเรียนสำเร็จรูปเป็นสื่อการสอนที่มีประสิทธิภาพร่วมกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ดังนั้น การใช้บทเรียนสำเร็จรูปร่วมกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) จึงเป็นเทคนิควิธีหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เป็นอย่างดี จึงควรสนับสนุนและส่งเสริมให้ครูนำรูปแบบการเรียนนี้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ของนักเรียนในทุกระดับชั้นต่อไป