ผู้วิจัย
นางวลัยจิตร์ เดชคำภู
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
วิทยฐานะรองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง รูปแบบบริหารการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบบริหารการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบและศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบบริหารการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านโพธิ์กลาง)โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้ (2.1) เพื่อวิเคราะห์พัฒนาการความสามารถของครูในการเขียนหน่วยการเรียนรู้ โดยการบูรณาการเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน (2.2) เพื่อวิเคราะห์พัฒนาการความสามารถของครูในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ โดยการบูรณาการเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน (2.3) เพื่อวิเคราะห์พัฒนาการความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของครู โดยการบูรณาการเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน (2.4) เพื่อวิเคราะห์พัฒนาการความรู้ ความเข้าใจของครูผู้สอนเรื่องการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ (2.5) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครูที่มีต่อการบูรณาการ ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน (2.6) เพื่อวิเคราะห์พัฒนาการด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน (2.7) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการบูรณาการ ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน (2.8) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อการบูรณาการ ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ระยะ โดยระยะแรกเป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบ ระยะที่สองเป็นระยะการพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบ ระยะที่สามเป็นการนำรูปแบบไปทดลองใช้ในสถานการณ์จริง และระยะที่สี่เป็นระยะของการประเมินและปรับปรุงรูปแบบ สำหรับกลุ่มตัวอย่างของการดำเนินการวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วยกลุ่มตัวอย่างที่ร่วมการสนทนากลุ่มเพื่อศึกษาแนวคิดและข้อคิดเห็นเสนอแนะต่อการพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถภาพการสอน จำแนกเป็น ผู้บริหาร ครูผู้สอน ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา รวมจำนวน 234 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการ คือประเด็นสำหรับการสนทนากลุ่มและการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง และแบบสำรวจเหตุผลต่อปัญหาในเรื่องการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน แบบตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบบฯ แบบตรวจสอบร่างคู่มือรูปแบบฯ แบบประเมินความสามารถของครูในการเขียนหน่วยการเรียนรู้ แบบประเมินความสามารถของครูในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของครู แบบประเมินความรู้ ความเข้าใจของครูผู้สอน แบบประเมินความคิดเห็นของครู แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน แบบประเมินความคิดเห็นของนักเรียน และแบบประเมินความคิดเห็นของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าร้อยละ (%) การวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (x ̅) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (content analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาและสังเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานจากเอกสาร ตำรา วรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่า 1.1 แนวคิดของรูปแบบการพัฒนา การพัฒนาตามรูปแบบนี้ใช้แนวคิดการเรียนรู้ 3 แนวคิด ได้แก่ แนวคิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง แนวคิดของการเรียนรู้โดยใช้ประสบการณ์เป็นฐาน และแนวคิดการเรียนรู้ตามสภาพจริง คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่จะเสริมสร้างให้เกิดกับผู้เรียน มุ่งให้สถานศึกษาเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ ประกอบด้วย1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 1.2 ผลการพัฒนารูปแบบรูปแบบบริหารการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) มีกระบวนการที่เรียกว่า PHOKLANG Model ประกอบด้วย 8 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1. P : Planning ขั้นการวางแผน ขั้นที่ 2. H : Heuristic ขั้นการกระตุ้น ขั้นที่ 3. O : Observation ขั้นการสร้างความตระหนัก ขั้นที่ 4. K : Knowledge ขั้นการให้ความรู้ ขั้นที่ 5. L : Learning ขั้นการจัดการเรียนรู้ ขั้นที่ 6. A : Assessing ขั้นการประเมินผล ขั้นที่ 7. N : Normalize ขั้นการประยุกต์ใช้ และ ขั้นที่ 8. G : Gainful ขั้นการส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ ผลการตรวจสอบความคิดเห็นด้านความเหมาะสมโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านความเป็นไปได้มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด และความเหมาะสมของคู่มือรูปแบบ ด้านความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านความเป็นไปได้ของคู่มือรูปแบบโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบและศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบฯ 2.1 ความสามารถในการเขียนหน่วยการเรียนรู้ของครู อยู่ในระดับมากที่สุด 2.2 ความสามารถในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ของครู อยู่ในระดับมากที่สุด 2.3 ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของครู อยู่ในระดับมากที่สุด 2.4 พัฒนาการความรู้ ความเข้าใจของครูผู้สอน อยู่ในระดับมาก 2.5 ความคิดเห็นของครูที่มีต่อการบูรณาการ อยู่ในระดับมากที่สุด 2.6 ผู้เรียนมีพัฒนาการด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สูงขึ้นทั้ง 8 ด้าน และมีค่าเฉลี่ยรวม 8 ด้าน อยู่ในอัตราสูงขึ้น 2.7 นักเรียนมีความคิดเห็นของต่อการบูรณาการ อยู่ในระดับมาก และ 2.8 ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีความคิดเห็นต่อการบริหารการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการ มีความคิดเห็นอยู่ในอัตราสูงขึ้น
3. ผลสรุปความคิดเห็นของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อการบริหารการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการ เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน 3.1 ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นต่อความสำคัญของการบูรณาการ และความมีคุณค่าของการบริหารการบูรณาการครูเห็นว่า เป็นสิ่งที่สำคัญ 3.2 ความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วม ผู้บริหารมีบทบาทในการชี้แนะ ตรวจสอบสะท้อนการปฏิบัติการสอน ส่วนเพื่อน ๆ ครูมีบทบาทในการแนะนำ ถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน 3.3 ความคิดเห็นต่อปัญหาที่พบจากการปฏิบัติการสอนโดยการบูรณาการ พบว่าปัญหาจำนวนนักเรียนต่อห้องมีมาก ทำให้การเปลี่ยนห้องเรียนตามรายวิชามีเวลาบูรณาการได้น้อย จัดกิจกรรมได้ยาก และดูแลไม่ทั่วถึง 3.4 ความคิดเห็นต่อความยั่งยืนของการบริหารการสอนโดยบูรณาการ สรุปความเห็นได้ว่า การบริหารการสอนโดยบูรณาการนี้จะเป็นความรู้ ทักษะที่ติดตัวครูไป ความรู้ ความตระหนักของผู้บริหารก็จะทำให้โรงเรียนส่งเสริมสนับสนุนให้ครูได้รับการเสริมสร้างได้บูรณาการคุณลักษณะที่พึงประสงค์มากขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป 3.5เงื่อนไขความสำเร็จสำหรับการนำรูปแบบบริหารการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ไปใช้ สรุปเงื่อนไขได้ 8 ประการ คือ ความตระหนักของครูต่อการเสริมสร้างคุณลักษณะที่พึงประสงค์ กระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการต้องเสริมสร้างความตระหนักและความรู้ความเข้าใจของครู การใช้กระบวนการ PHOKLANG Model ประกอบด้วย 8 ขั้นตอน อย่างต่อเนื่องในการพัฒนาผู้บริหาร และครู ก็มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักต่อบทบาทการนิเทศตามรูปแบบ และการสอนโดยบูรณาการ ครูมีการพัฒนาตนเอง และความใกล้ชิดกับผู้บริหารสถานศึกษาให้การส่งเสริม สนับสนุน ส่งเสริมให้นักเรียนปฏิบัติคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตนเกิดเป็นนิสัย และมีความคาดหวังว่านักเรียนจะนำไปเผยแพร่อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป