ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ จากการอ่านมากรู้มาก สำหรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อ

ชื่อรายงาน การประเมินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ จากการอ่านมากรู้มาก สำหรับนักเรียน

ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

พระชนมายุ 60 พรรษา โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก

ชื่อผู้รายงาน นางอฑิภา วรากรเจริญ

ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ จากการอ่านมากรู้มาก สำหรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระชนมายุ 60 พรรษา โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษกมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินบริบท (Context) ด้านความเหมาะสมของหลักการเหตุผล / วัตถุประสงค์ และเป้าหมายของโครงการ 2) ประเมินความพร้อมด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input) โครงการ 3) ประเมินกระบวนการดำเนินงาน (Process) ด้านการปฏิบัติงานตามขั้นตอนต่างๆ ในการดำเนินงาน ตลอดจนปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานตามโครงการ 4) ประเมินผลสัมฤทธิ์ (Product) ของโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ จากการอ่านมากรู้มาก สำหรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระชนมายุ 60 พรรษา โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก

ประชากรที่ใช้ในการประเมินเป็นบุคลากรในโรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก

ปีการศึกษา 2558 ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling ) ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ประกอบด้วย ผู้บริหารโครงการ จำนวน 6 คน ครูผู้สอน จำนวน 22 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 215 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการประเมินโครงการทั้ง 4 ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ 1 แบบสอบถามประเมินบริบทสภาพแวดล้อมของโครงการ(C) ฉบับที่ 1 แบบสอบถามความสอดคล้องระหว่าง หลักการเหตุผล/วัตถุประสงค์/เป้าหมาย/ ของโครงการกับนโยบายโรงเรียน และความต้องการของนักเรียนด้านการส่งเสริมการอ่าน และฉบับ ที่ 2 สอบถามความคาดหวังและความเป็นไปได้ของเป้าหมายของโครงการ ตอนที่ 2 แบบประเมินความพร้อมด้านปัจจัย (I) ฉบับที่ 1 ประเมินความพร้อมด้านปัจจัยหรือทรัพยากรที่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานโครงการ ตอนที่ 3 แบบประเมินกระบวนการของโครงการ(P) ฉบับที่ 2 ประเมินความเหมาะสมของการปฏิบัติงานตามโครงการขั้นเตรียมการ/ขั้นดำเนินการ และขั้นประเมินผล และ ฉบับที่ 3 แบบประเมินความเหมาะสมของการจัดกิจกรรมตามโครงการ ตอนที่ 4 ประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการ(P) โดยประเมิน 3 ประเภท คือ 1) ประเมินผลสัมฤทธิ์จากการปฏิบัติกิจกรรมตามโครงการทั้ง 5 โครงการ โดยใช้คู่มือการดำเนินโครงการฯ 2) แบบประเมินพฤติกรรมลักษณะนิสัยรักการอ่าน 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน และครูที่มีต่อโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ จากการอ่านมากรู้มาก สำหรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระชนมายุ 60 พรรษา โรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก

การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการคำนวณค่าดรรชนีความสอดคล้อง IOC ค่าเฉลี่ย( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) และค่าร้อยละ

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลสรุปได้ว่า

ตอนที่ 1 ผลการประเมินบริบทสภาพแวดล้อมของโครงการ

1. วิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่าง หลักการเหตุผล / วัตถุประสงค์ / เป้าหมาย กับนโยบายของโรงเรียน และความต้องการของนักเรียนด้านการส่งเสริมการอ่านปรากฏดังนี้

1.1 หลักการเหตุผล/วัตถุประสงค์/เป้าหมายของโครงการ มีความสอดคล้องกับนโยบายโรงเรียน และความต้องการของนักเรียนโดยค่าดรรชนีความสอดคล้องเฉลี่ยเท่ากับ 1.00 และหลักการเหตุผล / วัตถุประสงค์/เป้าหมายของโครงการ มีความสอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนมีค่าดรรชนีความสอดคล้องเท่ากับ 0.80

1.2 วัตถุประสงค์ของโครงการเหมาะสมกับนโยบายของโรงเรียน มีค่าดรรชนีความสอดคล้องเฉลี่ยเท่ากับ 0.93 วัตถุประสงค์ของโครงการเหมาะสมกับความต้องการของนักเรียน มีค่าดรรชนีความสอดคล้องเท่ากับ 1.00

1.3 เป้าหมายของโครงการเหมาะสมกับนโยบายของโรงเรียนมีค่าดรรชนีความสอดคล้องเฉลี่ยเท่ากับ 0.86 เป้าหมายของโครงการเหมาะสมกับความต้องการของนักเรียนมีค่าดัชนีความสอดคล้องเฉลี่ยเท่ากับ 0.93

2. วิเคราะห์ความคาดหวังและความเป็นไปได้ของเป้าหมายของโครงการ ทั้งคณะกรรมการบริหารโครงการ ครู และคณะกรรมการติดตามผล มีความคาดหวังและความเป็นไปได้ของโครงการ ดังนี้

2.1 ความคาดหวังของโครงการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ 3.73 มีค่าอยู่ในระดับมากที่สุด

2.2 ความเป็นไปได้ของเป้าหมายของโครงการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ 3.48 มีค่าอยู่ในระดับมากที่สุด

ตอนที่ 2 ผลการประเมินความพร้อมด้านปัจจัยหรือทรัพยากรของโครงการ

ผลการประเมินความพร้อมในด้านปัจจัยหรือทรัพยากรในการดำเนินงานของโครงการ ทุกเรื่องมีความพร้อม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.68 คือมีความพร้อมอยู่ในระดับ “มากที่สุด” ทุกรายการ

ตอนที่ 3 การประเมินกระบวนการของโครงการ

3.1 ความเหมาะสมของการปฏิบัติงานตามโครงการ มีดังนี้

3.1.1 จากผลการประเมินกระบานการของโครงการในขั้นเตรียมการมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.42 เกณฑ์อยู่ในระดับ “มาก”

3.1.2 จากผลการประเมินกระบานการของโครงการในขั้นดำเนินการมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.37 เกณฑ์อยู่ในระดับ “มาก”

3.1.3 จากผลการประเมินกระบานการของโครงการในขั้นประเมินผลมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.32 เกณฑ์อยู่ในระดับ “มาก”

3.2 ประเมินความเหมาะสมของการจัดกิจกรรมตามโครงการ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.57 เกณฑ์อยู่ในระดับ “มากที่สุด”

ตอนที่ 4 ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ปรากฏผลดังนี้

1. ประเมินผลสัมฤทธิ์จากการปฏิบัติกิจกรรมตามโครงการทั้ง 5 โครงการ พบว่า

ในภาพรวม นักเรียนมีสนใจ และมีความกระตือรือร้น ร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมงานกลุ่มสำเร็จลุล่วง

ตามเป้าหมาย และมีคะแนนเฉลี่ย ในแต่ละโครงการคือ

1.1 โครงการกิจกรรมที่ 1 โครงการเรียนรู้เล่าข่าวเร้าพลัง มีคะแนนเฉลี่ย 8.16

1.2 โครงการกิจกรรมที่ 2 โครงการเรียนรู้ชื่นชมสารานุกรมไทย มีคะแนน

เฉลี่ย 8.09

1.3 โครงการกิจกรรมที่ 3 โครงการเรียนรู้นิทานพาสนุก มีคะแนนเฉลี่ย 8.05

1.4 โครงการกิจกรรมที่ 4 โครงการเรียนรู้ บทความและสารคดี มีคะแนนเฉลี่ย 8.38

1.5 โครงการกิจกรรมที่ 5 โครงการเรียนรู้ร่วมเรียนรู้สุดหรรษาพาเพื่อนอ่าน มีคะแนนเฉลี่ย 8.20

2. ผลการเปรียบเทียบพฤติกรรมลักษณะนิสัยรักการอ่านของนักเรียนก่อนและหลัง

ดำเนินโครงการฯ พบว่า พฤติกรรมนิสัยรักการอ่านก่อนและหลังดำเนินโครงการมีความแตกต่างกัน โดยก่อนดำเนินโครงการการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านอยู่ในระดับพอใช้ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.70 ส่วนหลังดำเนินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ จากการอ่านมากรู้มาก สำหรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นฯ อยู่ในระดับดีมาก โดยมีค่าเฉลี่ย

เท่ากับ 4.80

3. ผลการประเมินความพึงพอใจ ปรากฏผล ดังนี้

3.1 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ จากการอ่านมาก

รู้มาก สำหรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ฯโดยเฉลี่ย มีค่าเท่ากับ 4.78 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์

พึงพอใจ “มากที่สุด”

3.2 ครูมีความพึงพอใจต่อโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ จากการอ่านมากรู้มาก

สำหรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ฯโดยเฉลี่ย มีค่าเท่ากับ 4.80 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์

พึงพอใจ “มากที่สุด”

โพสต์โดย รองกึง : [11 มี.ค. 2560 เวลา 10:26 น.]
อ่าน [3277] ไอพี : 118.174.4.109
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,795 ครั้ง
5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก
5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก

เปิดอ่าน 254,029 ครั้ง
การกำหนดภาระการสอนขั้นต่ำของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน
การกำหนดภาระการสอนขั้นต่ำของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน

เปิดอ่าน 13,135 ครั้ง
คำว่า สปา มาจากไหน
คำว่า สปา มาจากไหน

เปิดอ่าน 20,867 ครั้ง
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18

เปิดอ่าน 2,547 ครั้ง
อาการปวดท้องบ่งบอกโรค
อาการปวดท้องบ่งบอกโรค

เปิดอ่าน 10,267 ครั้ง
หน่วยจัดประสบการณ์และหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ชั้นอนุบาล 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 3
หน่วยจัดประสบการณ์และหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ชั้นอนุบาล 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 3

เปิดอ่าน 18,410 ครั้ง
คลิปประทับใจความผูกพันระหว่างครูกับศิษย์ นักเรียนเซอร์ไพรส์คุณครู ก่อนจะย้าย เชื่อว่าหลายท่านเคย..
คลิปประทับใจความผูกพันระหว่างครูกับศิษย์ นักเรียนเซอร์ไพรส์คุณครู ก่อนจะย้าย เชื่อว่าหลายท่านเคย..

เปิดอ่าน 9,815 ครั้ง
สุดระทึก ขับรถฝ่าไฟแดง หนีการจับกุมตำรวจ
สุดระทึก ขับรถฝ่าไฟแดง หนีการจับกุมตำรวจ

เปิดอ่าน 10,477 ครั้ง
ซุปเปอร์บอร์ดจะเป็นอัศวินม้าขาว ทางการศึกษาไทยได้หรือ
ซุปเปอร์บอร์ดจะเป็นอัศวินม้าขาว ทางการศึกษาไทยได้หรือ

เปิดอ่าน 8,079 ครั้ง
เมื่อกล้าปราบคอร์รัปชั่น ก็ลองกล้าเปลี่ยนประเทศ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา
เมื่อกล้าปราบคอร์รัปชั่น ก็ลองกล้าเปลี่ยนประเทศ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 15,023 ครั้ง
การพิมพ์ TILDE ( ~ ) ใน Windows 7
การพิมพ์ TILDE ( ~ ) ใน Windows 7

เปิดอ่าน 10,609 ครั้ง
สักการะเกจิชื่อดัง... ตามหาผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในตรัง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง
สักการะเกจิชื่อดัง... ตามหาผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในตรัง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง

เปิดอ่าน 27,096 ครั้ง
วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม
วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม

เปิดอ่าน 24,899 ครั้ง
วิธีฝึกภาษาอังกฤษอังกฤษอย่างไรให้เก่งเทพใน 1-3 เดือน!!!
วิธีฝึกภาษาอังกฤษอังกฤษอย่างไรให้เก่งเทพใน 1-3 เดือน!!!

เปิดอ่าน 9,587 ครั้ง
สดร.ชี้ข่าวโลกมืดสนิท 6 วันเพราะฝุ่น-ขยะอวกาศบดบังไม่จริง
สดร.ชี้ข่าวโลกมืดสนิท 6 วันเพราะฝุ่น-ขยะอวกาศบดบังไม่จริง

เปิดอ่าน 11,362 ครั้ง
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ
เปิดอ่าน 24,836 ครั้ง
ร้อยความเชื่อหลักการ
ร้อยความเชื่อหลักการ 'ตั้งชื่อ'
เปิดอ่าน 29,785 ครั้ง
แฟลช และเทคนิคการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลช
แฟลช และเทคนิคการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลช
เปิดอ่าน 31,893 ครั้ง
การเบิกค่าพาหนะในการเดินทางไปราชการ
การเบิกค่าพาหนะในการเดินทางไปราชการ
เปิดอ่าน 17,670 ครั้ง
ยุบ ศธจ.ศจภ? : การทับซ้อนของอำนาจบริหาร? โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก
ยุบ ศธจ.ศจภ? : การทับซ้อนของอำนาจบริหาร? โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ