ชื่อเรื่อง การพัฒนากระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชื่อผู้วิจัย นายประนอม รักประทุม ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดศรีทวี ปฏิบัติหน้าที่โรงเรียนเทศบาลวัดท้าวโคตร สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ปีที่ทำการวิจัย ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2.เพื่อศึกษาผลการใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วย 2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2.2 ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนเทศบาลวัดท้าวโคตร จำนวน 44 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน การใช้สื่อ และความต้องการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ จำนวน 25 ข้อ ใช้สอบถามนักเรียน ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ และผู้บริหาร 2) กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI จำนวน 7 กิจกรรม เวลา 17 ชั่วโมง รวมทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 40 ข้อ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 20 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ ร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, ทดสอบค่าทีเพื่อทราบความมีนัยสำคัญทางสถิติ (t-test dependent)
ผลการวิจัย พบว่า
1. กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ E1/E2 = 80.36/80.11 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 สอดคล้องกับสมมติฐาน
2. ผลการทดลองใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริม
ความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดท้าวโคตร มีผลดังนี้
2.1. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 สอดคล้องกับสมมติฐาน
2.2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดท้าวโคตร มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือโดยใช้เทคนิค TAI เพื่อส่งเสริมความเข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tenses สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในระดับมาก ( = 4.04) สอดคล้องกับสมมติฐาน