ครูบ้านนอก

การศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป

เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ

พลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ

พลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแนงมุดวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33 อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 2

ปีการศึกษา 2558 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 35 คน ซึ่งได้จากการการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้

โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค จำนวน 6 แผนการเรียนรู้ 2) บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างขึ้น มีจำนวน 6 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค ซึ่งเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยาก (p) ระหว่าง 0.38 – 0.75 และอำนาจจำแนก (B) ระหว่าง 0.32 – 0.81 ความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.83 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale)

5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.37 – 0.61 ค่าความเชื่อมั่น .88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วย t- test for Dependent Sample ผลการศึกษา พบว่า

1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 83.72/80.28 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.5327 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 53.27

3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.43

ผลการศึกษาครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นำมาใช้ในการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นได้

เว็บน่าสนใจ