ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องความสำคัญของสถิติ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

รายวิชา คณิตศาสตร์ 6 ค23102 ภาคเรียนที่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง สถิตเบื้องต้น เวลา 15 ชั่วโมง

เรื่อง ความสำคัญของสถิติ เวลา 1 ชั่วโมง

ผู้สอน นางสาวภัทธิยา แสนจำสาร วันที่........เดือน...................พ.ศ. ..................

__________________________________________________________________________

1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ 5 : การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น

มาตรฐาน ค 5.1 เข้าใจและใช้วิธีการทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล

ตัวชี้วัด ค 5.1 ม.3/1 กำหนดประเด็นและเขียนข้อคำถามเกี่ยวกับปัญหาหรือสถานการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งกำหนดวิธีการศึกษาและการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เหมาะสม

ตัวชี้วัด ค 5.1 ม.3/3 นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสม

มาตรฐาน ค 5.3 ใช้ความรู้เกี่ยวกับสถิติและความน่าจะเป็นช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหา

สาระที่ 6 : ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

มาตรฐาน ค 6.1 มีความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

ตัวชี้วัด ค 6.1 ม.3/3 ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผลได้อย่างเหมาะสม

ค 6.1 ม. 3/5 เชื่อมโยงความรู้ต่างๆในคณิตศาสตร์ และนำความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับศาสตร์อื่น

2. สาระสำคัญ

สถิติ เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของข้อมูลและการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูล ซึ่งประกอบด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูล การนำเสนอข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการแปลความหมายข้อมูล เพื่อให้ได้ตัวชี้วัดที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจในกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ด้านความรู้ (K)

1) นักเรียนสามารถบอกความสำคัญของสถิติได้

3.2 ด้านทักษะและกระบวนการ (P)

1) นักเรียนมีความสามารถในการให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผลได้

2) นักเรียนสามารถนำเสนอวิธีการหาคำตอบจากสถานการณ์ปัญหาที่กำหนดให้ได้

3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

1) นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย

2) มีวินัยในการเรียน

3) มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยเหลือผู้อื่นในการทำงานและการเรียน

4. สาระการเรียนรู้

ในปัจจุบันหน่วยงานทุกระดับมีความจำเป็นต้องใช้สถิติเป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบายต่างๆ การตัดสินใจหรือวางแผนเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น การประเมินผลงานโครงการต่างๆที่ดำเนินการไปแล้ว ดังตัวอย่างสถานการณ์ต่อไปนี้

1) ขิมเป็นเจ้าของร้านขายขนมหม้อแกง ต้องการทราบว่าควรทำขนมหม้อแกงเพื่อขายให้กับลูกค้าเป็นขนมหม้อแกงเผือก หรือขนมหม้อแกงไข่มากกว่ากัน ก่อนตัดสินใจได้ดำเนินการดังนี้

1. สำรวจความคิดเห็นของลูกค้าประจำประมาณ 50 คนต่อวัน ว่าต้องการซื้อขนมหม้อแกงเผือก หรือขนมหม้อแกงไข่ ถ้าให้ ผ แทน ขนมหม้อแกงเผือก และ ข แทนขนมหม้อแกงไข่ ผลของการสำรวจเป็นดังนี้

ผ ข ผ ผ ข ข ข ผ ข ข

ผ ผ ข ผ ข ข ผ ผ ผ ข

ข ข ข ข ข ผ ผ ข ข ข

ข ผ ข ผ ผ ข ข ผ ข ผ

ผ ผ ข ข ข ผ ข ผ ข ข

2. ขิมจำแนกลูกค้าตามแบบที่เลือก พบว่า ลูกค้าเลือกขนมหม้อแกงเผือก 21 คน และเลือกขนมหม้อแกงไข่ 29 คน

3. ขิมเห็นว่าลูกค้าเลือกขนมหม้อแกงไข่มากกว่าขนมหม้อแกงเผือก จึงตัดสินใจทำขนมหม้อแกงไข่เพื่อขายมากกว่าขนมหม้อแกงเผือก

2) สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ. ได้ทำการสำรวจเพื่อเปรียบเทียบ ผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระดับประเทศระหว่างปีการศึกษา 2557 และปีการศึกษา 2558 ผลการสำรวจเป็นดังนี้

1. วิชาภาษาไทย ปีการศึกษา 2558 คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 42.64 เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2557 ร้อยละ 7.44

2. วิชาสังคมศึกษา ปีการศึกษา 2558 คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 46.24 ลดลงจากปีการศึกษา 2557 ร้อยละ 0.55

3. วิชาภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2558 คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 30.62 เพิ่มขึ้น จากปีการศึกษา 2557 ร้อยละ 3.16

4. วิชาคณิตศาสตร์ ปีการศึกษา 2558 คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 32.40 เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2557 ร้อยละ 2.75

5. วิชาวิทยาศาสตร์ ปีการศึกษา 2558 คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 37.63 ลดลงจากปีการศึกษา 2557 ร้อยละ 0.99

จากผลการสำรวจพบว่าวิชาภาษาไทย มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงที่สุด รองลงมาคือวิชาภาษาอังกฤษ และวิชาคณิตศาสตร์ตามลำดับ แสดงว่าโดยเฉลี่ยแล้วนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทั้งประเทศมีความรู้ความสามารถด้านภาษาไทย

5. กระบวนการจัดการเรียนรู้

ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน

1) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับความหมายและความสำคัญของสถิติ โดยให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น พร้อมตั้งคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้

- นักเรียนเคยได้ยินคำว่า “สถิติ” หรือไม่

- ถ้าเคยได้ยิน ให้นักเรียนยกตัวอย่าง (สถิติการท่องเที่ยว, สถิติการวิ่ง, สถิติการว่างงานฯลฯ)

2) ครูแจ้งหัวข้อ และจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ

ขั้นที่ 2 ขั้นสอน

2.1 ขั้นไตร่ตรองรายบุคคล

ครูเสนอสถานการณ์ปัญหาในใบกิจกรรมที่ 1.1 เรื่อง ความสำคัญของสถิติ โดยให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ปัญหา ดังนี้

ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหาของโพลยา มี 4 ขั้นตอน คือ

ขั้นที่ 1 ทำความเข้าใจปัญหา

ให้นักเรียนอ่านสถานการณ์และตอบคำถามต่อไปนี้

1.1 สิ่งที่โจทย์ต้องการ คือ ...............................................................................

1.2 สิ่งที่โจทย์กำหนด คือ ...............................................................................

1.3 ข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้แก้ปัญหา มีอะไรบ้าง ................................................

ขั้นที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา

ครูให้นักเรียนกำหนดแนวทางการหาคำตอบด้วยตนเอง โดยพิจารณาจากโจทย์ต้องการอะไร โจทย์กำหนดอะไรให้บ้าง และจะมีวิธีการหาคำตอบได้อย่างไร แล้วบันทึกลงในใบกิจกรรมที่ 1.1

ขั้นที่ 3 ดำเนินการตามแผน

ครูให้นักเรียนดำเนินการหาคำตอบตามที่นักเรียนได้วางแผนเอาไว้

ขั้นที่ 4 มองย้อนกลับ

ครูให้นักเรียนตรวจสอบผลลัพธ์ของวิธีการแก้ปัญหาอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าวิธีการดังกล่าวเหมาะสมที่สุดหรือไม่ ควรปรับปรุงหรือไม่ อย่างไร

2.2 ขั้นไตร่ตรองระดับกลุ่มย่อย

1) แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 5 คน อภิปรายแนวทางในการหาคำตอบของแต่ละคน พร้อมทั้งตรวจสอบ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงกระบวนการการหาคำตอบที่เหมาะสมที่สุด

2) สมาชิกในแต่ละกลุ่มช่วยกันพิจารณาคัดเลือกแนวทางการหาคำตอบที่เหมาะสมที่สุด แล้วสรุปเป็นความคิดของกลุ่ม แล้วบันทึกลงในใบกิจกรรมที่ 1.2

2.3 ขั้นไตร่ตรองระดับชั้นเรียน

1) นักเรียนแต่ละกลุ่ม ส่งตัวแทนออกมานำเสนอวิธีการหาคำตอบของกลุ่ม เพื่อให้สมาชิกกลุ่มอื่นๆช่วยกันอภิปรายหรือเสนอแนะเพิ่มเติม

2) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปวิธีการหาคำตอบของแต่ละกลุ่มว่าเป็นอย่างไร

3) ครูอธิบาย หรือเสนอแนะวิธีการหาคำตอบเพิ่มเติมในกรณีที่นักเรียนมีปัญหาทำไม่ได้เกี่ยวกับแนวทางการหาคำตอบจากใบกิจกรรมที่ 1.2

2.4 ขั้นสรุปผล

ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่าสถิติมีความสำคัญอย่างไร (สถิติ เป็นการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูล เพื่อให้ได้ตัวชี้วัดของข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจในกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง)

2.5 ขั้นนำไปใช้

ให้นักเรียนทำใบงานที่ 1.1 เป็นรายบุคคล เพื่อเป็นการประเมินความรู้ความเข้าใจของนักเรียน

ขั้นที่ 3 ขั้นการวัดและประเมินผล

ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจใบกิจกรรมที่ 1.1 และแบบฝึกทักษะที่ 1 แบบประเมินด้านทักษะ/กระบวนการ แบบประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และแบบบันทึกผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้

6. การวัดและประเมินผล

จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์

การประเมิน

1. ด้านความรู้ (K)

1) นักเรียนสามารถบอกความสำคัญของสถิติได้

- ตรวจใบกิจกรรมที่ 1.1

- ใบกิจกรรมที่ 1.1

นักเรียนทุกคน ทำได้ถูกต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ70 ของคะแนนทั้งหมด

2. ด้านทักษะและกระบวนการ (P)

1) นักเรียนมีความสามารถในการให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผลได้

2) นักเรียนสามารถนำเสนอวิธีการหาคำตอบจากสถานการณ์ปัญหาที่กำหนดให้ได้

- ตรวจใบงานที่ 1.1

- ประเมินด้านทักษะ/กระบวนการ

- ใบงานที่ 1.1

- แบบประเมิน ด้านทักษะ/กระบวนการ

นักเรียนทุกคน ทำได้ถูกต้อง ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของคะแนนทั้งหมด

3. ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

1) นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย

2) มีวินัยในการเรียน

3) มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยเหลือผู้อื่นในการทำงานและการเรียน

การสังเกตพฤติกรรม ความมุ่งมั่น การมีวินัย และการมีจิตสาธารณะในการทำงานและการเรียน

แบบประเมิน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์

นักเรียนทุกคนผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดีขึ้นไป

7. สื่อการเรียนรู้

7.1 ใบกิจกรรมที่ 1.1 เรื่อง ความสำคัญของสถิติ

7.2 ใบกิจกรรมที่ 1.2 เรื่อง ความสำคัญของสถิติ

7.3 ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความสำคัญของสถิติ

8. แหล่งเรียนรู้

8.1 ห้องสมุดโรงเรียน

8.2 อินเทอร์เน็ต

9. กิจกรรมเสนอแนะ

กรณีที่มีนักเรียนบางกลุ่มทำใบกิจกรรมที่ 1.2 เรื่อง ความสำคัญของสถิติ ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ครูให้นักเรียนกลุ่มนั้นกลับไปศึกษาเพิ่มเติมอีกครั้ง และแก้ไขลงในสมุดส่งครูผู้สอนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ

10. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้

.......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ…………………………………..…..

(....................................................)

ตำแหน่ง ................................................................

................/.................../.................

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา

.......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ…………………………………..…..

(....................................................)

ตำแหน่ง ................................................................

................/.................../.................

โพสต์โดย นางสาวภัทธิยา แสนจำสาร : [6 มี.ค. 2560 เวลา 10:54 น.]
อ่าน [5257] ไอพี : 192.168.0.87, 1.2.15
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 3,282 ครั้ง
แนะนำแนวทางสำหรับครูรุ่นใหม่ ในการเตรียมเด็กสอบ TGAT
แนะนำแนวทางสำหรับครูรุ่นใหม่ ในการเตรียมเด็กสอบ TGAT

เปิดอ่าน 64,988 ครั้ง
โปรแกรมคำนวณบำเหน็จบำนาญข้าราชการปกติ
โปรแกรมคำนวณบำเหน็จบำนาญข้าราชการปกติ

เปิดอ่าน 15,306 ครั้ง
ศิลปะและสิ่งแวดล้อม
ศิลปะและสิ่งแวดล้อม

เปิดอ่าน 36,175 ครั้ง
กำจัด "กลิ่นปาก" ให้สิ้นซาก
กำจัด "กลิ่นปาก" ให้สิ้นซาก

เปิดอ่าน 33,329 ครั้ง
Adjectives Formation (การทำให้เป็นคำคุณศัพท์ )
Adjectives Formation (การทำให้เป็นคำคุณศัพท์ )

เปิดอ่าน 16,533 ครั้ง
เทควันโด : อวัยวะของร่างกายที่ใช้เป็นอาวุธ
เทควันโด : อวัยวะของร่างกายที่ใช้เป็นอาวุธ

เปิดอ่าน 13,838 ครั้ง
8 กลเม็ดใช้ชีวิตปลอดหนี้!!!...
8 กลเม็ดใช้ชีวิตปลอดหนี้!!!...

เปิดอ่าน 19,037 ครั้ง
เรื่องพระเจ้าอชาตศัตรู
เรื่องพระเจ้าอชาตศัตรู

เปิดอ่าน 14,636 ครั้ง
ชม MV เพลง "ชีวิตยังคงสวยงาม" ของ บอดี้แสลม เชียร์นักกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย
ชม MV เพลง "ชีวิตยังคงสวยงาม" ของ บอดี้แสลม เชียร์นักกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย

เปิดอ่าน 113,830 ครั้ง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง

เปิดอ่าน 27,576 ครั้ง
พระคาถาชินบัญชร สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )
พระคาถาชินบัญชร สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )

เปิดอ่าน 86,703 ครั้ง
ผักพื้นบ้าน 13 ชนิด ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไม่ทำลายตับ
ผักพื้นบ้าน 13 ชนิด ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไม่ทำลายตับ

เปิดอ่าน 12,362 ครั้ง
โลหิต ที่ควรทราบ
โลหิต ที่ควรทราบ

เปิดอ่าน 56,210 ครั้ง
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?

เปิดอ่าน 16,248 ครั้ง
ตุ๊กตาดินเผา เสริมฮวงจุ้ยให้บ้านเรา
ตุ๊กตาดินเผา เสริมฮวงจุ้ยให้บ้านเรา

เปิดอ่าน 9,815 ครั้ง
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เปิดอ่าน 10,331 ครั้ง
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี
เปิดอ่าน 11,957 ครั้ง
แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย3 - 6 ปี สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง
แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย3 - 6 ปี สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง
เปิดอ่าน 4,935 ครั้ง
ฝึกกล้ามเนื้อเข่าให้แข็งแรง ช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บข้อเข่าจากกีฬา
ฝึกกล้ามเนื้อเข่าให้แข็งแรง ช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บข้อเข่าจากกีฬา
เปิดอ่าน 14,642 ครั้ง
12 วิธีอยู่อย่างไรให้ห่างไกลมะเร็ง
12 วิธีอยู่อย่างไรให้ห่างไกลมะเร็ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ