บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในกลุ่มวิชาดนตรีนั้น ต้องจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเนื้อหา โดยต้องประกอบไปด้วยกิจกรรมหลาย ๆ ประเภท ผู้วิจัยเล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการจัดกระบวนการเรียนการสอนวิชาดนตรี และคุณค่าของแบบฝึกทักษะ ผู้วิจัยจึงได้จัดทำการวิจัยเรื่องการศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ขึ้นโดยการศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนดอนจานวิทยาคม อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวนนักเรียน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา มี 4 ชนิด ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จะมีทั้งหมด 6 เล่ม เวลาเรียนทั้งหมด 12 ชั่วโมง มีค่าเฉลี่ยความสอดคล้องเท่ากับ 4.75 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดแบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ 6 แผน รวม 12 ชั่วโมง ค่าเฉลี่ยความสอดคล้องเท่ากับ 4.83 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.80 มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.32 0.86 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.86 และ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนรู้ชุดแบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.45 ถึง 0.90 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.94 สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานด้วย t test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 92.31 / 80.89 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. แบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.6614 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้คิดเป็นร้อยละ 66.14
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์
มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ
การเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ อยู่ในระดับมากที่สุด มีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.85
โดยสรุป การศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนได้