ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกด กลุ่มสา

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน

และการเขียนมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

ชื่อผู้ศึกษา บังอร บุญทิพย์

สถานที่ศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านตะลุบัน สังกัดเทศบาลเมืองตะลุบัน

อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี

ปีที่ศึกษา ๒๕๕๘

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและ

การเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

๒) ออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและ

การเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ๓) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ๔) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียน

ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านตะลุบัน สังกัดเทศบาลเมืองตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ จำนวนนักเรียน ๒๒ คนได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เพลงประกอบการเรียนรู้ เรื่อง มาตราตัวสะกดสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๙ เพลง แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ๒๙ แผน ชั่วโมงสอน ๒๙ ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ ๓ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น (KR-20) เท่ากับ ๐.๘๖ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า ๕ ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น ( ) เท่ากับ ๐.๘๓ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ

ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยสองค่าจากกลุ่มตัวอย่าง

กลุ่มเดียว (t-test for Paired Samples)

ผลการศึกษา พบว่า ตอนที่ ๑ ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ พบว่า

นักเรียนอ่านและเขียนหนังสือผิดๆถูกๆอ่านออกเสียงเพี้ยนอ่านและเขียนตกหล่นไม่ถูกต้องเพราะขาดการฝึกฝนไม่ทราบความหมายของคำไม่พยายามศึกษาหลักเกณฑ์ทางภาษา

ไม่เข้าใจหลักเกณฑ์การอ่านการเขียนคำตามหลักภาษาไทยที่ประสมด้วยสระและมีตัวสะกดค่อนข้างซับซ้อนจดจำตัวอย่างการใช้ภาษาที่ผิดจากสื่อสิ่งพิมพ์สื่อมวลชน และอินเทอร์เน็ตแล้วนำมาใช้

จนเกิดความเคยชิน ทำให้เกิดปัญหาด้านการอ่านและการเขียนคำนักเรียนมักเกิดความสับสนและผิดพลาดในการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระและคำที่มีตัวสะกดตามมาตราตัวสะกด

ครูผู้สอนยังขาดความรู้ในการผลิตสื่อการเรียนการสอนและเลือกใช้สื่อที่หลากหลาย น่าสนใจที่มีความเหมาะสมกับวัยของผู้เรียนเหมาะกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริงส่วนใหญ่ครูใช้การสอนจากหนังสือ

ของโรงเรียนที่จัดให้เป็นส่วนใหญ่เน้นการบรรยายให้นักเรียนฟังและทำการบ้านครูไม่นำเทคนิควิธี

การสอนเข้ามาใช้ในการจัดการเรียนการสอนขาดประสบการณ์ในการสอนทักษะในการอ่านและ

การเขียนภาษาไทย

ตอนที่ ๒ ออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน

มาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพ เท่ากับ ๘๓.๘๕/๘๓.๕๐ สูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่กำหนด

ตอนที่ ๓ ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑

ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีค่าเท่ากับ๐.๗๖๙๑ หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๖.๙๑ แสดงว่า หลังจากนักเรียนได้เรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนหรือมีความรู้เพิ่มขึ้น๐.๗๖๙๑๕ หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๖.๙๑ ซึ่งมีค่ามากกว่า ๐.๗๐ ที่กำหนดไว้

ตอนที่ ๔ ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้เพลงเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ๔.๕๕

โพสต์โดย อร : [23 ก.พ. 2560 เวลา 02:57 น.]
อ่าน [4348] ไอพี : 110.78.147.35
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,804 ครั้ง
พิธีวิวาห์ซาไก
พิธีวิวาห์ซาไก

เปิดอ่าน 8,923 ครั้ง
การศึกษาไทยต้อง Change สถานเดียว
การศึกษาไทยต้อง Change สถานเดียว

เปิดอ่าน 14,757 ครั้ง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง

เปิดอ่าน 36,378 ครั้ง
คิดจะซื้อ "ทีวีจอแบน" ต้องรู้อะไรบ้าง ?
คิดจะซื้อ "ทีวีจอแบน" ต้องรู้อะไรบ้าง ?

เปิดอ่าน 15,209 ครั้ง
กำจัดความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหาร
กำจัดความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหาร

เปิดอ่าน 11,383 ครั้ง
เที่ยวท่องสองฝั่งโขง อุบลฯ-ปากเซ
เที่ยวท่องสองฝั่งโขง อุบลฯ-ปากเซ

เปิดอ่าน 3,682 ครั้ง
น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร
น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร

เปิดอ่าน 44,408 ครั้ง
ADDIE Model timeline
ADDIE Model timeline

เปิดอ่าน 11,579 ครั้ง
ความต่างของ 3จี กับ 3.9จี
ความต่างของ 3จี กับ 3.9จี

เปิดอ่าน 30,382 ครั้ง
6 นิสัยที่ทำให้อายุยืน ใช่คุณครบทุกข้อไหม
6 นิสัยที่ทำให้อายุยืน ใช่คุณครบทุกข้อไหม

เปิดอ่าน 18,094 ครั้ง
เทศกาล ไหว้พระจันทร์
เทศกาล ไหว้พระจันทร์

เปิดอ่าน 23,653 ครั้ง
องค์ประกอบของระบบกราฟิก
องค์ประกอบของระบบกราฟิก

เปิดอ่าน 1,692 ครั้ง
"โกลด์ครอสทันเดอร์" ปลาการ์ตูนสายพันธุ์ใหม่
"โกลด์ครอสทันเดอร์" ปลาการ์ตูนสายพันธุ์ใหม่

เปิดอ่าน 12,683 ครั้ง
ปิดถนน 13 สาย จัดงานวันพ่อ 3 -13 ธ.ค. นี้
ปิดถนน 13 สาย จัดงานวันพ่อ 3 -13 ธ.ค. นี้

เปิดอ่าน 17,258 ครั้ง
การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ตอน1
การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ตอน1

เปิดอ่าน 13,772 ครั้ง
กล้วยหอมชนะเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มีสารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระในตัว
กล้วยหอมชนะเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มีสารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระในตัว
เปิดอ่าน 32,739 ครั้ง
สรรพคุณของ "ปวยเล้ง"
สรรพคุณของ "ปวยเล้ง"
เปิดอ่าน 15,103 ครั้ง
ถ้าผมเป็น "รมต.ศึกษา"
ถ้าผมเป็น "รมต.ศึกษา"
เปิดอ่าน 9,532 ครั้ง
7 วิธี น.ศ.จบใหม่ฝ่าวิกฤต หางานอย่างไรให้ ได้งาน !!
7 วิธี น.ศ.จบใหม่ฝ่าวิกฤต หางานอย่างไรให้ ได้งาน !!
เปิดอ่าน 21,529 ครั้ง
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ