ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้
แบบ 4MAT
ชื่อผู้ศึกษา บังอร บุญทิพย์
สถานที่ศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านตะลุบัน สังกัดเทศบาลเมืองตะลุบัน
อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
ปีที่ศึกษา ๒๕๕๘
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT ๓) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT และ ๔) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านตะลุบัน สังกัดเทศบาลเมืองตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ จำนวนนักเรียน ๒๒ คนได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ๑) แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT จำนวน ๖ เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ๒๘ แผน ชั่วโมงสอน ๒๘ ชั่วโมง ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ ๓ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น (KR-20) เท่ากับ ๐.๘๕ และ ๔) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เป็นแบบมาตรประมาณค่า ๕ ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น ( ) เท่ากับ ๐.๘๒ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยสองค่าจากกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว (t-test for Paired Samples)
ผลการศึกษา พบว่า
๑. แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT มีประสิทธิภาพเท่ากับ๘๔.๔๐/๘๓.๕๐ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่กำหนดไว้
๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
๓. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT มีค่าเท่ากับ ๐.๗๖๑๕ หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๖.๑๕ แสดงว่า หลังจากนักเรียนได้เรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนหรือมีความรู้เพิ่มขึ้น ๐.๗๖๑๕ หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๖.๑๕ ซึ่งมีค่ามากกว่า ๐.๗๐ ที่กำหนดไว้
๔. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำที่ประสมด้วยสระลดรูปเปลี่ยนรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ๔.๕๑