ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างนักเรียน ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสา

บทคัดย่อ

ชื่อผลงานทางวิชาการ การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างนักเรียน ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละกับนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบปกติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อผู้ศึกษา นายธีระศักดิ์ มะลิวงค์

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ

สถานศึกษา โรงเรียนบ้านแม่จัน(เชียงแสนประชานุสาสน์)

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์

ปีการศึกษา 2559

.............................................................................................................................................................

การศึกษาเรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างนักเรียน ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กับนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบปกติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ของนักเรียนระหว่างนักเรียนที่เรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กับ นักเรียนที่เรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบปกติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้วิธีการสอน แบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่จัน(เชียงแสน-ประชานุสาสน์) ที่มีต่อการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับใช้ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ของโรงเรียนบ้านแม่จัน (เชียงแสนประชานุสาสน์) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา-ประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำนวน 2 ห้องเรียน โดยมีขั้นตอนในการเลือกกลุ่มตัวอย่างดังนี้

ในปีการศึกษา 2559 ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนบ้านแม่จัน (เชียงแสนประชานุสาสน์) สำนักงานเขตพื้นที่-การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 แบ่งเป็น 3 ห้องเรียนใช้วิธีการสุ่มแบบเกาะกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยวิธีจับฉลากโดยใช้ห้องเรียนเป็นกลุ่มของการสุ่มตัวอย่าง สุ่มมา จำนวน 2 ห้องเรียน ได้ กลุ่มตัวอย่าง คือ ห้องเรียนที่ 1 คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 และห้องเรียน ที่ 2 คือ นักเรียนเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จากกลุ่มตัวอย่างที่สุ่มมา 2 ห้องเรียน สุ่มมา 1 หนึ่งห้องเรียน โดยใช้วิธีการสุ่มแบบเกาะกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยวิธีจับฉลากโดยใช้ห้องเรียนเป็นกลุ่มของการสุ่ม ได้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 เป็นกลุ่มตัวอย่างที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และที่เหลืออีก 1 ห้องเรียน คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2/2 เป็นห้องเรียนที่ เรียนโดยใช้รูปการสอนแบบปกติ

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ จำนวน 20 แผน แบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 18 ชุด แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลโดย การหาค่าเฉลี่ย( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) ค่าเฉลี่ยร้อยละและทดสอบสมมุติฐาน t-test และการบรรยายความเรียงประกอบตาราง

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ของนักเรียน ระหว่าง นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กับนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบปกติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่จัน(เชียงแสนประชานุสาสน์) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 3 คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ก่อนเรียนของนักเรียนทั้งสองห้องเรียนไม่แตกต่างกัน

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียน ชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่จัน(เชียงแสนประชานุสาสน์) ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ หากพิจารณาผลคะแนนโดยรวมได้คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 43.73 ส่วนคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 87.45 ซึ่งคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ หลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่จัน(เชียงแสนประชานุสาสน์) ระหว่างนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กับ นักเรียน ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบปกติ คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์หลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สูงกว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ ที่ระดับ 0.05

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่จัน(เชียงแสนประชานุสาสน์) กลุ่มทดลองที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบ- สืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยภาพรวม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.55 , S.D. = 0.48) และผลการทดสอบสมมุติฐาน t-test ระดับความพึงพอใจของนักเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้าน-แม่จัน(เชียงแสนประชานุสาสน์) ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบ-เสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ เป็นไปตามเกณฑ์ที่ค่าเฉลี่ย 3.51 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

โพสต์โดย ตา : [20 ก.พ. 2560 เวลา 18:12 น.]
อ่าน [5442] ไอพี : 192.168.1.73, 116.58
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 25,172 ครั้ง
เคล็ดลับๆก่อนอาบน้ำ
เคล็ดลับๆก่อนอาบน้ำ

เปิดอ่าน 15,474 ครั้ง
10 เหตุผลที่ลดเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลงสักที
10 เหตุผลที่ลดเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลงสักที

เปิดอ่าน 5,317 ครั้ง
วงปีของต้นไม้ บอกอะไรกับเรา
วงปีของต้นไม้ บอกอะไรกับเรา

เปิดอ่าน 16,197 ครั้ง
สถิติน่ารู้....นอนกรน
สถิติน่ารู้....นอนกรน

เปิดอ่าน 6,638 ครั้ง
ผลการสอบไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง
ผลการสอบไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง

เปิดอ่าน 11,549 ครั้ง
เตือนภัย กลโกงใหม่พ่อค้ากุ้ง แอบเนียนสลับถุงให้ลูกค้า
เตือนภัย กลโกงใหม่พ่อค้ากุ้ง แอบเนียนสลับถุงให้ลูกค้า

เปิดอ่าน 26,599 ครั้ง
"รังผึ้ง" นวัตกรรมใหม่สามารถเก็บน้ำผึ้งโดยไม่ต้องกวนผึ้งเลย
"รังผึ้ง" นวัตกรรมใหม่สามารถเก็บน้ำผึ้งโดยไม่ต้องกวนผึ้งเลย

เปิดอ่าน 14,296 ครั้ง
นี่คือ 5 เหตุผล ทำไมผู้ใหญ่เล่นโซเชียล แล้วอันตรายกว่าวัยรุ่น
นี่คือ 5 เหตุผล ทำไมผู้ใหญ่เล่นโซเชียล แล้วอันตรายกว่าวัยรุ่น

เปิดอ่าน 25,704 ครั้ง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบิดาวิทยาศาสตร์ไทย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบิดาวิทยาศาสตร์ไทย

เปิดอ่าน 16,421 ครั้ง
1 กันยายน วันรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร
1 กันยายน วันรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร

เปิดอ่าน 29,580 ครั้ง
SCORM (Shareable Content Object Reference Model)
SCORM (Shareable Content Object Reference Model)

เปิดอ่าน 4,543 ครั้ง
สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์  การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย

เปิดอ่าน 76,762 ครั้ง
เกณฑ์วิทยฐานะใหม่
เกณฑ์วิทยฐานะใหม่

เปิดอ่าน 9,877 ครั้ง
เมื่อต้องลงโทษลูก
เมื่อต้องลงโทษลูก

เปิดอ่าน 4,898 ครั้ง
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ

เปิดอ่าน 17,229 ครั้ง
วิธีลดต้นขาง่าย ๆ สำหรับคุณสาว ๆ ต้นขาใหญ่
วิธีลดต้นขาง่าย ๆ สำหรับคุณสาว ๆ ต้นขาใหญ่
เปิดอ่าน 15,382 ครั้ง
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้
เปิดอ่าน 18,116 ครั้ง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง
เปิดอ่าน 14,476 ครั้ง
5 สัญญาณโรคร้าย ที่ชายไม่ควรเมิน
5 สัญญาณโรคร้าย ที่ชายไม่ควรเมิน
เปิดอ่าน 1,319 ครั้ง
seo คืออะไร? เผยกลยุทธ์และเทคนิคสำคัญให้ติดหน้าแรก google
seo คืออะไร? เผยกลยุทธ์และเทคนิคสำคัญให้ติดหน้าแรก google

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ