ชื่องานวิจัย การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นายธิติ ศรีนราธร
ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน คือ ร้อยละ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียนระหว่างก่อน และหลังการใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อแบบฝึกทักษะที่สร้างขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนโชติคุณเกษมบ้านเมืองงาม อำเภอแม่อาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญสำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 20 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะที่สร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน จากนั้นนำเสนอข้อมูล โดยตารางประกอบคำบรรยาย
ผลการวิจัย พบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 4 ชุด ซึ่งใช้เวลาในการเรียนการสอนรวม 20 ชั่วโมง และเป็นแบบฝึกทักษะที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานตามที่กำหนดคือ 80/80 โดยมีค่าประสิทธิภาพที่ 82.26/82.65 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านจับใจความสำคัญหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คือทำนักเรียนทำคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนได้ 14 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 70.00 ทำคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนได้ 16.53 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.65
3. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.84 คือมีระดับความพึงพอใจโดยรวม อยู่ในระดับ พึงพอใจมากที่สุด
การวิจัยครั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน คือ ร้อยละ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียนระหว่างก่อน และหลังการใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อแบบฝึกทักษะที่สร้างขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนโชติคุณเกษมบ้านเมืองงาม อำเภอแม่อาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญสำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 20 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะที่สร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน จากนั้นนำเสนอข้อมูล โดยตารางประกอบคำบรรยาย
ผลการวิจัย พบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 4 ชุด ซึ่งใช้เวลาในการเรียนการสอนรวม 20 ชั่วโมง และเป็นแบบฝึกทักษะที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานตามที่กำหนดคือ 80/80 โดยมีค่าประสิทธิภาพที่ 82.26/82.65 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านจับใจความสำคัญหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คือทำนักเรียนทำคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนได้ 14 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 70.00 ทำคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนได้ 16.53 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.65
3. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.84 คือมีระดับความพึงพอใจโดยรวม อยู่ในระดับ พึงพอใจมากที่สุด