บทคัดย่อ
การประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation) 2) เพื่อประเมินปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) 3) เพื่อประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) 4) เพื่อประเมินผลผลิต (Product Evaluation) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ ในการประเมินโครงการครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) ครูโรงเรียนโนนกอกวิทยา จำนวน 52 คน 2) นักเรียนโรงเรียนโนนกอกวิทยา จำนวน 414 คน รวมทั้งสิ้น 466 คน เครื่องมือในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แบบประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนโนนกอกวิทยา ตามรูปแบบการประเมินของ CIPP Model ด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ 2) แบบประเมินวัดความสามารถ ในการทำโครงงานของนักเรียน 3) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้
1. ผลการประเมินด้านสภาวะแวดล้อม
ผลการประเมินด้านสภาวะแวดล้อม ในภาพรวมครูมีความเห็นว่ามีความเหมาะสม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า โครงการนี้ มีความสอดคล้องกับภารกิจหลัก ด้านการพัฒนาบุคลากรขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมครูให้มีความรู้ ทักษะและเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพ และวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาครูผู้สอนให้สามารถจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ
ผลการประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้น ในภาพรวมครูมีความเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีการกำหนดภาระงาน แก่ผู้รับผิดชอบกิจกรรมอย่างชัดเจนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ผู้บริหารมีความมุ่งมั่นในความสำเร็จของโครงการและบุคลากรทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการดำเนินงานโครงการ
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินโครงการ
ผลการประเมินด้านกระบวนการ ในภาพรวมครูมีความเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า การเตรียมการก่อนดำเนินงานมีความเหมาะสมมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ ระยะเวลาดำเนินการมีความเหมาะสมกับกิจกรรม และ การนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานแต่ละกิจกรรม
4. ผลการประเมินด้านผลผลิต
4.1 ความสามารถของครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน
ความสามารถของครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ตามความคิดเห็นของนักเรียนในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ครูสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกลุ่มให้กับนักเรียนในการปฏิบัติงานกลุ่ม มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ครูจัดกิจกรรมกระตุ้นความคิด จินตนาการและการแสดงออก และครูมีการตั้งคำถามและอธิบายเชื่อมโยง
ความสามารถของครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ตามความคิดเห็นของครูในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ครูมีการตั้งคำถาม และอธิบายเชื่อมโยงเหตุผลข้ออื่น ๆ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ครูเอาใจใส่นักเรียนเป็นรายบุคคล และครูจัดกิจกรรมเน้นการฝึกปฏิบัติ
4.2 ความสามารถในการทำโครงงานของนักเรียน
ความสามารถในการทำโครงงานของนักเรียน โดยภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับ ปานกลาง เรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ ความสามารถด้านการวางแผนการทำงาน ความสามารถด้านกระบวนการทำงาน และความสามารถด้านผลงานและการนำเสนอ เป็นลำดับสุดท้าย
4.3 ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน
ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน มีกิจกรรมการเรียนการสอนที่ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ช่วยให้นักเรียนเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อน และนักเรียนต้องการให้ครูจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงานอีกในเนื้อหาสาระอื่น ๆ