|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และลักษณะความเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ 2) เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนา 3) เพื่อทดลองใช้แนวทางการพัฒนา และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้แนวทางการพัฒนา เป็นการวิจัย และพัฒนา เลือกศึกษาโรงเรียน และอุทยานการเรียนรู้ Best Practice จำนวน 3 แห่ง และเลือกโรงเรียน หนองโพธิ์วิทยาคม เป็นโรงเรียนศึกษาผลการทดลองใช้แนวทางพัฒนา ขั้นตอนการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะคือ ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบสอบถาม ระยะที่ 2 การพัฒนา และตรวจสอบคุณภาพของแนวทาง เครื่องมือ ได้แก่ แนวการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้พื้นฐาน แนวทางการวิเคราะห์องค์กร และการกำหนดทิศทางองค์กร แบบบันทึกการประชุมเชิงปฏิบัติการ และการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ ระยะที่ 3 การทดลองใช้แนวทางพัฒนา เครื่องมือ ได้แก่ โครงการพัฒนา และระยะที่ 4 การประเมินและปรับปรุงแนวทางพัฒนา เครื่องมือ ได้แก่ แบบตรวจติดตามผลการดำเนินงานตามโครงการ แบบบันทึกผลการประชุมกลุ่มย่อย แบบรายงานผลการปฏิบัติงานตามโครงการ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทำการวิเคราะห์เนื้อหาสำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพ
ผลการวิจัย พบว่า ในยุคปัจจุบันเราต้องอาศัยการเรียนรู้เป็นฐานในการพัฒนาในด้านต่างๆ ดังนั้นจึงมี ความจำเป็นที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการบริหารสถานศึกษาจากแนวทางการบริหารแบบเดิมๆ ที่ผ่านมา ไปสู่การพัฒนาสถานศึกษาสู่ความเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ หรือโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้สมาชิกทุกคนขององค์กร ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ การกำหนดแนวทางการพัฒนา มีแนวทางดังนี้ 1) วิเคราะห์สภาพแวดล้อม ของโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ทั้ง 20 โรงเรียน 2) กำหนดทิศทางองค์กร (วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์) 3) กำหนดยุทธศาสตร์หลัก 4) กำหนดมุมมอง 5) จัดทำแผนที่ยุทธศาสตร์ 6) กำหนดตัวชี้วัดตามเป้าประสงค์ บนแผนที่ยุทธศาสตร์ 7) ระดมกิจกรรม โครงการใหม่ๆ 8) จัดทำแผนปฏิบัติการ 9) กำหนดแนวทางการนำแผนสู่การปฏิบัติ และ 10) กำหนดแนวทางการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผล ซึ่งแนวทางดังกล่าวได้รับการยืนยันความเหมาะสมจากผู้ทรงคุณวุฒิ สำหรับผลการนำแนวทางการพัฒนา ไปใช้ พบว่า ตัวชี้วัดของโครงการสามารถบรรลุเป้าหมายการปฏิบัติงานที่ตั้งไว้ จำนวน 10 ตัวชี้วัด ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 1-10 ร้อยละของนักเรียนชั้น ม.6 ที่มีทักษะด้าน ICT เพิ่มขึ้น ร้อยละของผู้เรียน ที่มีความเสี่ยงด้านสิ่งเสพติดลดลง ร้อยละของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่รักษ์ในอาชีพท้องถิ่น ร้อยละของนักเรียนที่มีนิสัย รักการอ่านเพิ่มขึ้น จำนวนหลักสูตรท้องถิ่น ร้อยละของผู้เรียนที่มีความเสี่ยงทางเพศลดลง ร้อยละของนักเรียนที่มียอดเงินออมเพิ่มขึ้น ร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการเยี่ยมบ้าน ร้อยละของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และร้อยละของครูที่ได้รับการยกย่องเป็นครูดีเด่นประจำปี ส่วนตัวชี้วัดที่มีผลการประเมินไม่บรรลุเป้าหมาย มีจำนวน 2 ตัว ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 11-12 ร้อยละของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่มีทักษะการนวดเพื่อครอบครัว และร้อยละของนักเรียนที่ร่วมทัศนศึกษา และ ผลการประเมินแนวทางพัฒนา ในภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 เมื่อพิจารณา เป็นรายด้าน พบว่า ด้านการบรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน มีความเหมาะสมโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 ด้านผลกระทบมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.55 และด้านความคุ้มค่าของการดำเนินงาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.38
คำสำคัญ: แนวทางการพัฒนาโรงเรียน, องค์กรแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21,การบริหารเชิงดุลยภาพ
|
โพสต์โดย ณภัท : [9 ก.พ. 2560 เวลา 07:11 น.] อ่าน [5364] ไอพี : 10.9.1.33, 125.25.90
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 10,963 ครั้ง
| เปิดอ่าน 49,375 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,889 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,709 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,705 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,847 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,336 ครั้ง
| เปิดอ่าน 34,855 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,231 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,967 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,425 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,197 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,319 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,539 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,869 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 193,318 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,559 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,646 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,463 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,922 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|