ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
แนวทางการพัฒนาโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม สู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 2

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และลักษณะความเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ 2) เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนา 3) เพื่อทดลองใช้แนวทางการพัฒนา และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้แนวทางการพัฒนา เป็นการวิจัย และพัฒนา เลือกศึกษาโรงเรียน และอุทยานการเรียนรู้ Best Practice จำนวน 3 แห่ง และเลือกโรงเรียน หนองโพธิ์วิทยาคม เป็นโรงเรียนศึกษาผลการทดลองใช้แนวทางพัฒนา ขั้นตอนการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะคือ ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบสอบถาม ระยะที่ 2 การพัฒนา และตรวจสอบคุณภาพของแนวทาง เครื่องมือ ได้แก่ แนวการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้พื้นฐาน แนวทางการวิเคราะห์องค์กร และการกำหนดทิศทางองค์กร แบบบันทึกการประชุมเชิงปฏิบัติการ และการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ ระยะที่ 3 การทดลองใช้แนวทางพัฒนา เครื่องมือ ได้แก่ โครงการพัฒนา และระยะที่ 4 การประเมินและปรับปรุงแนวทางพัฒนา เครื่องมือ ได้แก่ แบบตรวจติดตามผลการดำเนินงานตามโครงการ แบบบันทึกผลการประชุมกลุ่มย่อย แบบรายงานผลการปฏิบัติงานตามโครงการ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทำการวิเคราะห์เนื้อหาสำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพ

ผลการวิจัย พบว่า ในยุคปัจจุบันเราต้องอาศัยการเรียนรู้เป็นฐานในการพัฒนาในด้านต่างๆ ดังนั้นจึงมี ความจำเป็นที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการบริหารสถานศึกษาจากแนวทางการบริหารแบบเดิมๆ ที่ผ่านมา ไปสู่การพัฒนาสถานศึกษาสู่ความเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ หรือโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้สมาชิกทุกคนขององค์กร ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ การกำหนดแนวทางการพัฒนา มีแนวทางดังนี้ 1) วิเคราะห์สภาพแวดล้อม ของโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ทั้ง 20 โรงเรียน 2) กำหนดทิศทางองค์กร (วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์) 3) กำหนดยุทธศาสตร์หลัก 4) กำหนดมุมมอง 5) จัดทำแผนที่ยุทธศาสตร์ 6) กำหนดตัวชี้วัดตามเป้าประสงค์ บนแผนที่ยุทธศาสตร์ 7) ระดมกิจกรรม โครงการใหม่ๆ 8) จัดทำแผนปฏิบัติการ 9) กำหนดแนวทางการนำแผนสู่การปฏิบัติ และ 10) กำหนดแนวทางการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผล ซึ่งแนวทางดังกล่าวได้รับการยืนยันความเหมาะสมจากผู้ทรงคุณวุฒิ สำหรับผลการนำแนวทางการพัฒนา ไปใช้ พบว่า ตัวชี้วัดของโครงการสามารถบรรลุเป้าหมายการปฏิบัติงานที่ตั้งไว้ จำนวน 10 ตัวชี้วัด ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 1-10 ร้อยละของนักเรียนชั้น ม.6 ที่มีทักษะด้าน ICT เพิ่มขึ้น ร้อยละของผู้เรียน ที่มีความเสี่ยงด้านสิ่งเสพติดลดลง ร้อยละของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่รักษ์ในอาชีพท้องถิ่น ร้อยละของนักเรียนที่มีนิสัย รักการอ่านเพิ่มขึ้น จำนวนหลักสูตรท้องถิ่น ร้อยละของผู้เรียนที่มีความเสี่ยงทางเพศลดลง ร้อยละของนักเรียนที่มียอดเงินออมเพิ่มขึ้น ร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการเยี่ยมบ้าน ร้อยละของผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และร้อยละของครูที่ได้รับการยกย่องเป็นครูดีเด่นประจำปี ส่วนตัวชี้วัดที่มีผลการประเมินไม่บรรลุเป้าหมาย มีจำนวน 2 ตัว ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 11-12 ร้อยละของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่มีทักษะการนวดเพื่อครอบครัว และร้อยละของนักเรียนที่ร่วมทัศนศึกษา และ ผลการประเมินแนวทางพัฒนา ในภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 เมื่อพิจารณา เป็นรายด้าน พบว่า ด้านการบรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน มีความเหมาะสมโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 ด้านผลกระทบมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.55 และด้านความคุ้มค่าของการดำเนินงาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.38

คำสำคัญ: แนวทางการพัฒนาโรงเรียน, องค์กรแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21,การบริหารเชิงดุลยภาพ

โพสต์โดย ณภัท : [9 ก.พ. 2560 เวลา 07:11 น.]
อ่าน [5364] ไอพี : 10.9.1.33, 125.25.90
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,963 ครั้ง
ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงิน
ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงิน

เปิดอ่าน 49,375 ครั้ง
การยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 ผ่านอินเทอร์เน็ต
การยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 ผ่านอินเทอร์เน็ต

เปิดอ่าน 15,889 ครั้ง
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!

เปิดอ่าน 13,709 ครั้ง
ใช้หมากรุกเป็นวิชา แก้ตกเลขซ้ำซาก
ใช้หมากรุกเป็นวิชา แก้ตกเลขซ้ำซาก

เปิดอ่าน 28,705 ครั้ง
ทำความเข้าใจ เกณฑ์ย้ายครู ว16/2558 เริ่มใช้เดือนมกราคม 2559
ทำความเข้าใจ เกณฑ์ย้ายครู ว16/2558 เริ่มใช้เดือนมกราคม 2559

เปิดอ่าน 8,847 ครั้ง
การศึกษาปัญหาที่แก้ไม่ตก
การศึกษาปัญหาที่แก้ไม่ตก

เปิดอ่าน 13,336 ครั้ง
หน้ากากอนามัย ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี
หน้ากากอนามัย ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี

เปิดอ่าน 34,855 ครั้ง
ภาวะเด็กอ้วน น้ำหนักเกิน ภัยร้ายที่คุณไม่ควรประมาท
ภาวะเด็กอ้วน น้ำหนักเกิน ภัยร้ายที่คุณไม่ควรประมาท

เปิดอ่าน 14,231 ครั้ง
สายตาเอียง
สายตาเอียง

เปิดอ่าน 29,967 ครั้ง
Nanmeebooks Reading Club ปีที่ 9
Nanmeebooks Reading Club ปีที่ 9

เปิดอ่าน 14,425 ครั้ง
การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาล คสช. 3 ปี ที่วังเวงและเคว้งคว้าง
การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาล คสช. 3 ปี ที่วังเวงและเคว้งคว้าง

เปิดอ่าน 44,197 ครั้ง
เปิดคู่มือ สามี-ภรรยา แยกยื่นภาษี หักค่าลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง
เปิดคู่มือ สามี-ภรรยา แยกยื่นภาษี หักค่าลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง

เปิดอ่าน 10,319 ครั้ง
10 วิธีรักษาเงินสด
10 วิธีรักษาเงินสด

เปิดอ่าน 10,539 ครั้ง
อิ่มอร่อย หลับสบาย
อิ่มอร่อย หลับสบาย

เปิดอ่าน 5,869 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มัธยมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาที่ 4 – มัธยมศึกษาที่ 6
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มัธยมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาที่ 4 – มัธยมศึกษาที่ 6

เปิดอ่าน 193,318 ครั้ง
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของอาเซียน
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของอาเซียน
เปิดอ่าน 14,559 ครั้ง
ตัวอย่างแนววินิจฉัยของ ก.พ.ค. 24 กรณี
ตัวอย่างแนววินิจฉัยของ ก.พ.ค. 24 กรณี
เปิดอ่าน 9,646 ครั้ง
บททดสอบก่อนเกษียณ
บททดสอบก่อนเกษียณ
เปิดอ่าน 22,463 ครั้ง
ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดี
ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดี
เปิดอ่าน 14,922 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ. 2558
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ. 2558

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ