ชื่อเรื่อง กระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาภายในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ผู้วิจัย นายอำนาจ หาญสงคราม
สถานศึกษา โรงเรียนดรุณวิทยา เทศบาลเมืองน่าน (บ้านสวนตาล) อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานกระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาภายในสถานศึกษาสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 2) เพื่อพัฒนากระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาภายในสถานศึกษาสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 3) เพื่อศึกษาผลการใช้กระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาภายในสถานศึกษาสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 4) เพื่อศึกษาผลการประเมินกระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาภายในสถานศึกษาสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วยครูโรงเรียนดรุณวิทยาเทศบาลเมืองน่าน (บ้านสวนตาล) ปีการศึกษา 2558 จำนวน 24 คน นักเรียนโรงเรียนดรุณวิทยา เทศบาลเมืองน่าน (บ้านสวนตาล) ปีการศึกษา 2558 จำนวน 85 คน ผู้ปกครองของนักเรียนเรียนปีการศึกษา 2558 จำนวน 85 คน และ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 14 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิตามสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการบริหารโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วม แบบประเมินความรู้ความเข้าใจ แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วม แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เนื้อหา และทดสอบความแตกต่างของคะแนนก่อนและหลังการอบรมด้วย t-test (Dependent Samples) และ การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพการบริหารกระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนของครูยังไม่มีการบูรณาการหลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม ขาดการทำงานเป็นทีม จึงส่งผลต่อนักเรียน ขาดการปลูกฝังคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เช่น การใฝ่เรียน ใฝ่รู้ การคิดวิเคราะห์การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา ความมีระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์ ไม่สามารถเผชิญและแก้ปัญหาในชีวิตจริงของตนเองได้
2. กระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่สร้างขึ้นเรียกว่า CHEMPUE Model เป็นการบริหารงานโรงเรียน โดยใช้หลักการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา (Curriculum : C) การจัดการเรียนรู้เพื่อความสุขในองค์กร (Happiness : H) การไม่ท้อถอยในการบริหาร (Unflinching : U ) การระดมทรัพยากรการบริหาร (Mobilization : M) การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชน (Participation : P) การจัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อม (Environment : E) การประเมินผล (Evaluation : E) และกระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาภายในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีประสิทธิภาพและความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการประเมินความรู้ความเข้าใจผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจ โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
4. ความพึงพอใจของครู ผู้เรียน ผู้ปกครอง และ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ต่อกระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาภายในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และการประเมินกระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาภายใสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของผู้ทรงคุณวุฒิพบว่า มีความเหมาะสมโดยรวมในระดับมากที่สุด และผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 5 ท่าน ได้รับรองกระบวนทัศน์การบริหารโรงเรียนโดยใช้เทคนิคการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาภายในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น