การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์
การเรียนรู้ในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะด้วยกิจกรรมการปั้นแป้งจากกล้วยน้ำว้า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์
การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการปั้นแป้งจากกล้วยน้ำว้า
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/8 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียน
อนุบาลเทศบาลเมืองสตูล จำนวน 31 คน ได้มาโดยการเลือกแบบจำเพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะด้วยกิจกรรมการปั้นแป้งจากกล้วยน้ำว้า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 2 และ 2) แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะ สำหรับนักเรียน
ชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 2
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์
การเรียนรู้ในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะด้วยกิจกรรมการปั้นแป้งจากกล้วยน้ำว้า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 2 ด้วยวิธี E1/E2 การเปรียบเทียบผลการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการปั้นแป้งจากกล้วยน้ำว้าด้วยการทดสอบค่าที (t-test) แบบ Dependent Samples Test
ผลการศึกษาพบว่า
1.ประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะด้วยกิจกรรมการปั้นแป้งจากกล้วยน้ำว้า สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 2
มีประสิทธิภาพ 81.52/82.89 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีผลการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะ หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการปั้นแป้งจากกล้วยน้ำว้าสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01