ชื่อผู้ศึกษา นางสาวนิตยา โคตรนารา
สถานศึกษา โรงเรียนประทาย อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา
ปีที่ศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การศึกษาการพัฒนาของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้
การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาและหา
ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ
เทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึก
ทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการเรียนด้วย
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและ
ร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา
คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 / 7 โรงเรียนประทาย อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 44 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random
Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ
โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้งหมดจำนวน 9 ชุด 2) หน่วยการ
เรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 จำนวน 1 หน่วย 9 เรื่อง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์
เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบ
ปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ชุด ทั้งหมด 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามวัดความ
พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบ
ร่วมมือเทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 15 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลการหาประสิทธิภาพ
ของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80 / 80 คำนวณจากสูตร E1 / E2 , หาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึก
ทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 2 จากคะแนนสอบ ก่อนเรียนและหลังเรียน (E.I.) การทดสอบสมมติฐานเปรียบเทียบ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง
อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากคะแนน
สอบก่อนเรียนและหลังเรียนใช้การทดสอบค่าที (t test แบบ Dependent) และการวัดความพึงพอใจ
ของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ
เทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากคะแนนประเมินความพึงพอใจของนักเรียนโดยใช้ค่าเฉลี่ย ( )
ส่วนเบี่ยงเบียนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค
STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น มีจำนวน 9 ชุด ได้ผ่านขั้นตอนการหาประสิทธิภาพตามขั้นตอน จนแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.09/83.71 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
ที่ 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้
แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ .6337 หรือคิดเป็นร้อยละ 63.37 แสดงว่านักเรียน ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ มีความก้าวหน้าร้อยละ 63.37
3. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้
แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้การเรียนรู้
แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.46 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.49
โดยสรุป การพัฒนาของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้
การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสมทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการสร้างและพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ในเนื้อหาอื่นและระดับชั้นอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุผลตามความมุ่งหมายของหลักสูตรและการสอนได้ดียิ่งขึ้น