ชื่อผลงาน การประเมินโครงการคันธพิทยาคารให้โอกาส : สู่การแก้ปัญหาการออกกลางคันของ
นักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557-2558
ผู้รายงาน นายสมปอง ห่วงจริง ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนคันธพิทยาคาร
ปีที่ประเมิน ปีการศึกษา 2557-2558
บทสรุป
การประเมินโครงการคันธพิทยาคารให้โอกาส : สู่การแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557-2558 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการดำเนินงาน และด้านผลผลิตของโครงการ
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ประกอบด้วย นักเรียนปีการศึกษา 2557 จำนวน 191 คน และปีการศึกษา 2558 จำนวน 220 คน ครู ปีการศึกษา 2557 จำนวน 37 คน และปีการศึกษา 2558 จำนวน 38 คน ผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2557 จำนวน 191 คน และปีการศึกษา 2558 จำนวน 220 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557 และปีการศึกษา 2558 จำนวน 13 คน และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2557 และปีการศึกษา 2558 จำนวน 24 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมทั้งสิ้น 5 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.90-0.96 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS for Windows V.18
ผลการประเมินพบว่า
1. ผลการประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อมการดำเนินโครงการคันธพิทยาคารให้โอกาส : สู่การแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557-2558 จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน ประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์การประเมิน พบว่าความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2557 และปีการศึกษา 2558 โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า การดำเนินโครงการคันธพิทยาคารให้โอกาส : สู่การแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557-2558 จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน ประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์การประเมิน พบว่าความคิดเห็นของครู ปีการศึกษา 2557 และปีการศึกษา 2558 โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการคันธพิทยาคารให้โอกาส : สู่การแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557-2558 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2557 และปีการศึกษา 2558 โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
4. ผลการประเมินโครงการคันธพิทยาคารให้โอกาส : สู่การแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557-2558 ในด้านผลผลิต ได้แก่
4.1 ผลการประเมินจำนวนนักเรียนออกกลางคันและนักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มจะออกกลางคัน ปีการศึกษา 2557-2558 จำแนกเป็น
4.1.1 ผลการประเมินจำนวนนักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาคันธพิทยาคารให้โอกาส : สู่การแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557-2558 ที่ผ่านการประเมินระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2557 คิดเป็นร้อยละ 99.24 และปีการศึกษา 2558 คิดเป็นร้อยละ 99.16
4.1.2 ผลการประเมินการจบช่วงชั้น/หลักสูตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนคันธพิทยาคาร ปีการศึกษา 2557 และปีการศึกษา 2558 นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่จบช่วงชั้น/หลักสูตรการศึกษาภาคบังคับ ปีการศึกษา 2557 คิดเป็นร้อยละ 97.06 และปีการศึกษา 2558 คิดเป็นร้อยละ 91.24 ส่วนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่จบช่วงชั้น/หลักสูตรการศึกษาภาคบังคับ ปีการศึกษา 2557 คิดเป็นร้อยละ 100.00 และปีการศึกษา 2558 คิดเป็นร้อยละ 100.00
4.2 ผลการประเมินการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2557-2558 ตามความคิดเห็นของครู ผู้ปกครอง และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2557 และปีการศึกษา 2558 โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
4.3 ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินโครงการคันธพิทยาคารให้โอกาส : สู่การแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557-2558 ของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2557 และปีการศึกษา 2558 โดยภาพรวมทั้งห้ากลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้
1.1 โรงเรียนควรเร่งรัดกิจกรรมเยี่ยมบ้าน เยี่ยมชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมกันวางแผน ร่วมดำเนินการ ร่วมกำกับติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล และร่วมชื่นชมผลงานอย่างต่อเนื่อง
1.2 ควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินโครงการมากยิ่งขึ้น
2. ข้อเสนอแนะในการประเมิน/วิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรนำรูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ไปประยุกต์ใช้ในการประเมินโครงการอื่น ๆที่เป็นภาพรวมของโรงเรียน เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมของโครงการ ปัจจัยนำเข้าของโครงการ กระบวนการดำเนินโครงการ และผลผลิตของโครงการ โดยการประเมิน 3 ระยะ ได้แก่ ก่อนการดำเนินโครงการ ระหว่างดำเนินโครงการ และสิ้นสุดการดำเนินโครงการ เพื่อนำสารสนเทศที่ได้ไปใช้ในการวางแผนแก้ปัญหา หรือพัฒนาโครงการให้มีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดต่อผู้เรียน
2.2 ควรมีการวิจัยพัฒนารูปแบบการแก้ปัญหาการออกกลางคันของนักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยจำแนกตามสภาพและบริบทของแต่ละพื้นที่ จังหวัด และกลุ่มจังหวัด เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา และการประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน