ความเป็นมาและแนวคิด
เนื่องจากนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านกูบังบาเดาะ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕7 พบปัญหาเกี่ยวกับการอ่านคำยาก โดยเฉพาะคำที่มีพยัญชนะควบกล้ำ คำที่มีอักษรนำ และคำที่มีตัวการันต์ โรงเรียนบ้านกูบังบาเดาะ เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ใช้ภาษามลายูสื่อสารเป็นภาษาหลัก ทำให้นักเรียนมีความเคยชินกับภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หากไม่มีการแก้ไขก็จะทำให้ภาษาไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางลบ จึงเป็นเหตุให้การสื่อสารขาดประสิทธิภาพ
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้รายงานในฐานะครูผู้สอนจึงได้ตระหนัก และสนใจที่จะพัฒนาชุดฝึกคำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านกูบังบาเดาะ เพื่อมุ่งเน้นให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับคำยากซึ่งเป็นคำที่มีพยัญชนะควบกล้ำ และคำที่มีตัวการันต์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งผลจากการทดลองครั้งนี้จะเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงขึ้น ผู้รายงานได้ส่งเสริม และแก้ปัญหาการอ่านคำยากโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านคำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วัตถุประสงค์
ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ผู้ศึกษาค้นคว้าได้ตั้งความมุ่งหมายไว้ดังนี้
1. เพื่อสร้างและพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านคำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านคำยาก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ประชากร
ประชากรในการศึกษาได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านกูบังบาเดาะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานีเขต 2 จำนวน 19 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
1. ชุดฝึกทักษะการอ่านคำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 4 ชุด 32 แบบฝึก
2. แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านคำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านคำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
วิธีการดำเนินการศึกษาและการเก็บรวบรวมข้อมูล
1. นำแบบทดสอบ จำนวน 1 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านคำยาก จำนวน 30 ข้อ ไปทดสอบก่อนฝึก (Pre-test)
2. ดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ควบคู่กับแบบฝึกในตอนท้ายของกิจกรรมและอยู่ในแผนแต่ละแผนจนครบทั้ง 4 ชุด
3. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านคำยาก
4. หลังจากที่สอนเนื้อหาจบทั้ง 4 ชุดแล้ว นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านคำยาก จำนวน 30 ข้อ ไปทดสอบหลังฝึกเพื่อทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านคำยากหลังฝึก (Post-test)
5. นำผลคะแนนที่ได้จากการทำแบบฝึก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านคำยากก่อนการจัดการเรียนรู้และหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านคำยากมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการทางสถิติ
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
1. ประสิทธิภาพชุดฝึกทักษะการอ่านคำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีประสิทธิภาพ (E1 ) เท่ากับ 89.21 และประสิทธิภาพหลังฝึก (E2) เท่ากับ 84.74 แสดงให้เห็นว่า ชุดฝึกทักษะการอ่านคำยากมีค่าประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของชุดฝึกส่งผลต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการเรียนรู้จริง เกิดทักษะกระบวนการและสามารถนำไปใช้ปฏิบัติได้จริง
2. เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการอ่านคำยากก่อนการจัดการเรียนรู้และหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะการคำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสูงกว่าก่อนเรียน หมายความว่าหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านคำยากนักเรียนมีความสามารถในการอ่านคำยากดีขึ้น แสดงว่าชุดฝึกทักษะการอ่านคำยากมีผลต่อการพัฒนาความสามารถในการอ่านคำยากสูงขึ้น