ครูบ้านนอก

ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและเขียนด้วยเอกสารประกอบ

การเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นางมนทกานต์ จันทร์ปิ่น

ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559

สถานศึกษา โรงเรียนเมืองแกพิทยาสรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 33

บทคัดย่อ

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและเขียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me 4) เพื่อศึกษาทักษะการอ่านและเขียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 34 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเมืองแกพิทยาสรรค์

ตำบลเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selected) โดยใช้นักเรียนทั้งหมดในการทดลอง รูปแบบการวิจัยเป็นรูปแบบการวิจัยแบบทำการทดสอบก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest - Posttest Design) ระยะเวลาในการทดลอง คือ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหัสวิชา อ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ 2) เอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ที่มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.26 - 0.75 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.22 - 0.84 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 2) แบบประเมินทักษะการอ่านและเขียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.52 – 0.83 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.76 – 0.92 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานโดยใช้สถิติ Nonparametric แบบ Wilcoxon Matched -Pairs Signed-Ranks Test

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1. เอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 74.26/73.73 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. เอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.65 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียน คิดเป็นร้อยละ 65

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me หลังจากเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ทักษะการอ่านและเขียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.52, S.D.=0.58)

5. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.58, S.D.=0.62)

สรุปผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา เรื่อง Things Around Me สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นสื่อในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญและเป็นประโยชน์กับนักเรียน ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทำให้การจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการอ่านและเขียน และสร้างความพึงพอใจต่อการเรียนให้กับนักเรียน ดังนั้นควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูสาระการเรียนรู้อื่น ๆ หรือระดับชั้นอื่น ๆ นำเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้เกมการศึกษา ไปเป็นนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะ เจตคติ และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ตามเจตนารมณ์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ต่อไป

เว็บน่าสนใจ