ครูบ้านนอก

งานวิจัยเรื่อง : รายงานการใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องพืชและสัตว์ กลุ่มสาระการเรียนรู้

วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

ชื่อผู้เขียน : นางกิตติพันธุ์ กิตติพยัคฆ์

ประเภทผลงานวิชาการ : ผลงานวิจัย

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์1)เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูปที่ใช้ประกอบการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดชลธีพฤกษาราม เรื่องพืชและสัตว์ ตามมาตรฐาน 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากบทเรียนสำเร็จรูปกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดชลธีพฤกษาราม เรื่องพืชและสัตว์ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนจากบทเรียนสำเร็จรูปในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดชลธีพฤกษาราม เรื่องพืชและสัตว์กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 19 คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย บทเรียนสำเร็จรูปจำนวน 5 เล่ม (การดำรงชีวิตของพืช การจำแนกพืชและการปลูกพืช การดำรงชีวิตของสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ และดินและประโยชน์ของดิน ) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องพืชและสัตว์ จำนวน 24 แผน แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน แบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที ( t-test )

ผลการวิจัยพบว่า (1)บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องพืชและสัตว์ (การดำรงชีวิตของพืช การจำแนกพืชและการปลูกพืช การดำรงชีวิตของสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ ดินและประโยชน์ของดิน) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้80/80 คือมีค่าประสิทธิภาพเฉลี่ยเท่ากับ 92.44/85.86 ถ้าพิจารณาเป็นรายข้อจากมากไปหาน้อย พบว่าเล่มที่ 2 เรื่อง การจำแนกพืชและการปลูกพืชมีค่าประสิทธิภาพมากที่สุดคือ 96.25/86.60 รองลงมาคือเล่มที่ 1 เรื่อง การดำรงชีวิตของพืชมีค่าประสิทธิภาพ 94.00/86.00 และต่ำที่สุดคือเล่มที่ 4 เรื่อง การเลี้ยงสัตว์ มีค่าประสิทธิภาพ 88.47/85.30 (2)ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนจากบทเรียนสำเร็จรูป เล่มที่1-5 มีดังนี้ เล่มที่ 1 เรื่องการดำรงชีวิตของพืช นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 4.00 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 8.6 เมื่อทดสอบความแตกต่างของคะแนน พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เล่มที่ 2 เรื่องการจำแนกพืชและดิน นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 4.40 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 8.66 เมื่อทดสอบความแตกต่างของคะแนน พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เล่มที่ 3 เรื่องการปลูกพืช นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 3.60 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 8.73 เมื่อทดสอบความแตกต่างของคะแนน พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เล่มที่ 4 เรื่องการดำรงชีวิตของสัตว์ นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 3.73และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 8.53 เมื่อทดสอบความแตกต่างของคะแนน พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เล่มที่ 5 เรื่องการเลี้ยงสัตว์ นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 3.26 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 8.40 เมื่อทดสอบความแตกต่างของคะแนน พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน (3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนจากบทเรียนสำเร็จรูป ปรากฏว่านักเรียนมีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก ( = 3.98 , S.D = 0.57) และเมื่อแยกออกเป็นรายข้อพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดคือ ข้อ 6 ( = 5.00 , S.D = 0.00 ) รองลงมาคือ 2,5 ( = 4.60 , S.D = 0.50) และน้อยที่สุดคือข้อ 10 ( = 4.06 , S.D = 0.59 )

เว็บน่าสนใจ