การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เอกสารประกอบ
การเรียนเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้กับผู้เรียนตามความถนัด ความสนใจ ทำให้เกิดประสิทธิภาพ
ในการเรียนรู้โดยผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง และจากการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม
ทำให้เกิดการตอบสนองต่อการเรียนรู้ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ มีความมุ่งหมาย คือ
1)เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ตามเกณฑ์ 80/80 2)เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน 3) เพื่อศึกษาความรับผิดชอบของนักเรียน
ต่อการศึกษาเล่าเรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เอกสารประกอ
บการเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนอนุบาล
ตาพระยา อำเภอตาพระยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 2 ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2557 จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1)แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ
หาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน จำนวน 12 แผน 2) เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
จำนวน 12 เล่ม 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ
มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ระหว่าง 0.200.73 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.75
4) แบบสอบถามความรับผิดชอบของนักเรียนแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ
มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.34 ถึง 0.81และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1.เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.31/ 84.23 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน มีค่าเท่ากับ 0.6917
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความรับผิดชอบของนักเรียนต่อการศึกษาเล่าเรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน โดยรวม
อยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุป แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้เอกสารประกอบ
การเรียนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เหมาะสม ควรนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาและเพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้พื้นฐานในการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น