ชื่อวิจัย การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาศิลปะ เรื่องทัศนศิลป์น่ารู้
โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคมนิคมวัฒนา จังหวัดสตูล
ผู้วิจัย นางลำไพ ศรีปาน
ปีที่ทำวิจัย 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน เรื่องทัศนศิลป์น่ารู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคมนิคมวัฒนา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน เรื่องทัศนศิลป์น่ารู้ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องทัศนศิลป์น่ารู้
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคมนิคมวัฒนา จังหวัดสตูล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 106 คน จาก 3 ห้องเรียน ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 34 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบง่าย โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ เอกสารประกอบการเรียน เรื่องทัศนศิลป์น่ารู้ ที่สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีจำนวน 3 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องทัศนศิลป์น่ารู้ จำนวน 14 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องทัศนศิลป์น่ารู้ จำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบประจำเล่มของเอกสารประกอบการเรียน จำนวน 3 เล่มๆละ 10 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบแบบที(t-test) ผลการวิจัยพบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน เรื่องทัศนศิลป์น่ารู้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.23/80.90 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาศิลปะ เรื่องทัศนศิลป์น่ารู้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องทัศนศิลป์น่ารู้ โดยใช้
เอกสารประกอบการเรียนมีความพึงพอใจระดับมากที่สุด ( = 4.74 SD = 0.42 )