ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการอ่านแบบทีมร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการอ่านแบบทีมร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนอ่านที่พัฒนาขึ้นที่มีผลต่อความเข้าใจการอ่านภาษาไทย และเพื่อประเมินผลรูปแบบการสอนอ่านที่พัฒนาขึ้น การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบและพัฒนารูปแบบ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ และขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบ

ประชากรที่ศึกษาเป็นครูและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ) สังกัดเทศบาลนครนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่างได้แก่ (1) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เป็นครูจำนวน 12 คน และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2557 จำนวน 30 คน (2) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองนำร่องเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 6 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 1 ห้องเรียน จำวนนักเรียน 35 คน (3) กลุ่มตัวอย่างในการทดลองใช้รูปแบบกิจกรรมการอ่านแบบทีมร่วมมือที่พัฒนาขึ้น เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2558 แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 38 คน กลุ่มควบคุม 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 36 คน และ (5) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินผลรูปแบบ เป็นนักเรียนกลุ่มทดลอง ครูที่เกี่ยวข้อง จำนวน 10 คน และครูจากโรงเรียนที่ร่วมทดลองใช้รูปแบบจำนวน 5 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ แบบสอบถามสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการการจัดการเรียนการสอนอ่านภาษาไทยสำหรับครูและนักเรียน แบบเก็บข้อมูลการสนทนากลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองใช้รูปแบบการอ่านแบบทีมร่วมมือ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบทีมร่วมมือ แบบทดสอบวัดความเข้าใจการอ่านภาษาไทย แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และเครื่องมือที่ใช้ในประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบ ได้แก่ แบบประเมินความพึงพอใจในการเรียน แบบประเมินรูปแบบการอ่านแบบทีมร่วมมือสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบมีตัวแปรร่วมทางเดียว (One way ANCOVA) การหาค่าสัมประสิทธิ์ความคงที่ การหาประสิทธิภาพและดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้การวิเคราะห์เอกสาร จัดกลุ่ม สรุปประเด็นและตรวจสอบความถูกต้อง ตัวแปรร่วมที่ใช้ในการศึกษา คือความผูกพันต่อการอ่าน

ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการสอนอ่านแบบทีมร่วมมือ ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ หลักการ จุดมุ่งหมาย สาระการเรียนรู้ ขั้นตอนกิจกรรม และการวัดผลและประเมินผล ซึ่งมีขั้นตอนของกิจกรรมการอ่าน เรียกว่า PIRC Model ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือ ขั้นเตรียม (Preparing : P) ขั้นแนะนำก่อนอ่าน (Introduction : I) ขั้นอ่าน (Reading : R) และขั้นตรวจสอบผลหลังอ่าน (Complete : C) ผลการทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่างพบว่า กลุ่มทดลองที่เรียนด้วยรูปแบบที่พัฒนาขึ้น มีคะแนนความเข้าใจการอ่านหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .01 กลุ่มทดลองที่เรียนด้วยรูปแบบปกติมีคะแนนความเข้าใจการอ่านหลังเรียนสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทั้งกรณีมีอิทธิพลและไม่มีอิทธิพลของตัวแปรร่วม นักเรียนมีระดับความพึงพอใจในการเรียนระดับมาก นักเรียนกลุ่มทดลองมีความคงทนในการเรียนรู้ ในระดับสูง ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการอ่านโดยผู้ที่เกี่ยวข้อง อยู่ในระดับมาก ประสิทธิภาพของรูปแบบการอ่านที่พัฒนาขึ้นในขั้นทดลองใช้จริงเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 (86.24/85.19) ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบ เท่ากับ 0.5253

โพสต์โดย ครูแก้ว : [8 ม.ค. 2560 เวลา 13:25 น.]
อ่าน [3668] ไอพี : 49.228.242.23
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 45,802 ครั้ง
การหาพื้นที่ผิวของร่างกาย
การหาพื้นที่ผิวของร่างกาย

เปิดอ่าน 9,577 ครั้ง
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นปี 2558 "เชือกวิเศษ" "รักนะเป็ดโง่" ติดอันดับดาวรุ่งพุ่งแรง
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นปี 2558 "เชือกวิเศษ" "รักนะเป็ดโง่" ติดอันดับดาวรุ่งพุ่งแรง

เปิดอ่าน 14,912 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 35,969 ครั้ง
ประเภทของภาพกราฟิก
ประเภทของภาพกราฟิก

เปิดอ่าน 13,387 ครั้ง
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวเกาหลีใต้ชนะจีน 3-2 เซต คว้าที่ 3 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวเกาหลีใต้ชนะจีน 3-2 เซต คว้าที่ 3 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56

เปิดอ่าน 10,254 ครั้ง
วิธีดูแลผิวพรรณในหน้าฝนให้ผิวสวยใสเสมอ
วิธีดูแลผิวพรรณในหน้าฝนให้ผิวสวยใสเสมอ

เปิดอ่าน 41,775 ครั้ง
6 ขั้นตอนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานและความผูกพันในองค์กร เพื่อรักษาคนเก่งขององค์กร
6 ขั้นตอนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานและความผูกพันในองค์กร เพื่อรักษาคนเก่งขององค์กร

เปิดอ่าน 19,330 ครั้ง
สุดยอดสมุนไพร"รางจืด"ราชายาแก้สารพัดพิษ ต้านมะเร็ง ช่วยลด-เลิก"ยาบ้า"
สุดยอดสมุนไพร"รางจืด"ราชายาแก้สารพัดพิษ ต้านมะเร็ง ช่วยลด-เลิก"ยาบ้า"

เปิดอ่าน 24,465 ครั้ง
"เพกา" คืออะไร
"เพกา" คืออะไร

เปิดอ่าน 36,288 ครั้ง
ข้าวหอมมะลิไทยได้แชมป์ข้าวโลก
ข้าวหอมมะลิไทยได้แชมป์ข้าวโลก

เปิดอ่าน 13,914 ครั้ง
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 9,471 ครั้ง
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"

เปิดอ่าน 30,864 ครั้ง
สารทเดือนสิบ ประเพณีประจำภาคใต้ ร่วมระลึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ
สารทเดือนสิบ ประเพณีประจำภาคใต้ ร่วมระลึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ

เปิดอ่าน 15,214 ครั้ง
การขับเคลื่อนนโยบาย สพฐ.ปี 51
การขับเคลื่อนนโยบาย สพฐ.ปี 51

เปิดอ่าน 41,723 ครั้ง
อาเซียน +3 และ อาเซียน +6 คืออะไร ?
อาเซียน +3 และ อาเซียน +6 คืออะไร ?

เปิดอ่าน 13,768 ครั้ง
อย.เตือนภัยครีมกันแดด - แก้ฝ้า 15 ชนิดใช้แล้วหน้าพัง
อย.เตือนภัยครีมกันแดด - แก้ฝ้า 15 ชนิดใช้แล้วหน้าพัง
เปิดอ่าน 14,942 ครั้ง
อวสาน ส้วมนั่งยอง! ครม.ประกาศ ปี 59 ทุกครัวเรือนต้องใช้ส้วมชักโครก 90% รับสังคมผู้สูงวัย
อวสาน ส้วมนั่งยอง! ครม.ประกาศ ปี 59 ทุกครัวเรือนต้องใช้ส้วมชักโครก 90% รับสังคมผู้สูงวัย
เปิดอ่าน 8,869 ครั้ง
40 ปี มนุษย์เหยียบจันทร์ กับความฝันสำรวจจักรวาล
40 ปี มนุษย์เหยียบจันทร์ กับความฝันสำรวจจักรวาล
เปิดอ่าน 2,398 ครั้ง
CBD และ THC ในพืชกัญชา คืออะไร?
CBD และ THC ในพืชกัญชา คืออะไร?
เปิดอ่าน 8,509 ครั้ง
เด็กรุ่นใหม่... เขาทำ (อาชีพ) อะไร
เด็กรุ่นใหม่... เขาทำ (อาชีพ) อะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ