ชื่อเรื่อง ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกปีที่ ๔-๖
โรงเรียนประชาพัฒนา ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
นราธิวาส เขต ๑
ผู้ศึกษา นางอาแอเสาะ นอรอเอ
ตำแหน่ง ครูชำนาญการ โรงเรียนประชาพัฒนา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๑
บทคัดย่อ
ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ โรงเรียนประชาพัฒนา ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต ๑ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อสร้างความรู้และพัฒนาแบบฝึกทักษะการจัดการเรียนรู้ชุมนุมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔๖ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ๘๐/๘๐
๒) เพื่อเปรียบเทียบผลการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการจัดการเรียนรู้ชุมนุมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔๖ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ โรงเรียนประชาพัฒนา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๑ ก่อนและหลังดำเนินการจัดกิจกรรมและ ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้กิจกรรมชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔๖ โรงเรียนประชาพัฒนา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต ๑ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ โรงเรียนประชาพัฒนา ในภาคเรียนที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ จำนวน ๑๕ คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ๑) แบบฝึกทักษะการจัดการเรียนรู้ชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔๖ จำนวน ๑๐ ชุด ๒) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔๖ จำนวน ๒๐ แผน ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องคุณธรรมและจริยธรรม เป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบชนิด ๔ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ และข้อ ๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการจัดการเรียนรู้คุณธรรมและจริยธรรม จำนวน ๑๐ ข้อ ดำเนินการสอนในชั่วโมงชุมนุมในระหว่างเวลา ๑๔.๐๐ น.- ๑๕.๐๐ น. ของทุกวันศุกร์ ตั้งแต่วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึง วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๙ ในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ โดยใช้เวลาในการสอนรวม ๒๐ ชั่วโมง
ผลการศึกษาพบว่า
๑. ประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) มีค่าเท่ากับ ๘๖.๐๓ และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) มีค่าเท่ากับ ๘๕.๑๑ ดังนั้น ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการจัดการเรียนรู้ชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔๖ มีค่าเท่ากับ ๘๖.๐๓ /๘๕.๑๑
๒. ผลการเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังดำเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม โดยใช้แบบฝึกทักษะการจัดการเรียนรู้ชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔๖ พบว่านักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรมที่สูงขึ้น โดยคะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๑๔.๔๗ คิดเป็นร้อยละ ๔๘.๒๒ ส่วนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๒๕.๕๓ คิดเป็นร้อยละ ๘๕.๑๑ โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เฉลี่ย ๑๑.๐๗ คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๘๙
๓. ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการจัดการเรียนรู้ชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔๖ เฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๗ คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๓๓
ข้อเสนอแนะ
๑. ครูผู้สอน ควรนำแบบฝึกทักษะการจัดการเรียนรู้ชุมนุมคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔๖ ไปดำเนินการจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนในโรงเรียนทุกคนเพื่อส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่นักเรียน โดยออกแบบเนื้อหาสาระให้สอดคล้องและเหมาะสมกับระดับของผู้เรียน เพราะจากผลการศึกษายืนยันความสำเร็จในการนำไปใช้แล้ว คือ การมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๖.๐๓ /๘๕.๑๑
และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อผลการจัดกิจกรรมกิจกรรมการเรียนรู้ชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม โดยใช้แบบฝึกทักษะการจัดการเรียนรู้ชุมนุมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
๒. จากการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า ความพึงพอใจที่มีต่อระยะเวลาที่ใช้ในการพัฒนานักเรียนในแต่ละวัน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อาจอธิบายได้ว่า ในการดำเนินการจัดกิจกรรม ครูผู้จัดกิจกรรม การเรียนรู้ให้แก่นักเรียนนั้นได้พิจารณากำหนดระยะเวลาของแต่ละวันให้เหมาะสมกับกิจกรรมเพื่อตอบสนองต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนให้มีศักยภาพสูงที่สุด