ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้ศึกษา นางนิศารัตน์ ทองคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
ปีที่ทำการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ของโรงเรียนอนุบาลหนองแสง อำเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี จำนวน 25 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ประกอบแบฝึกพัฒนาการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 ชุด จำนวน 5 แผน ใช้เวลา 15 ชั่วโมง 2) แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) เรื่อง การพัฒนาการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ
สถิติที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ร้อยละ ค่าคะแนนเฉลี่ย (x ̅) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และเปรียบเทียบผลต่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนกับหลังการใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ โดยใช้ t-test
ผลการศึกษาพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ประกอบแบบฝึกพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ มีค่าเฉลี่ยรายด้าน ตั้งแต่ 4.67 5.00 และมีค่าเฉลี่ยโดยรวมทุกด้าน 4.94 แสดงว่า แผนการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสมในระดับเหมาะสมมากที่สุด 2) แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 ชุด ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพโดยรวมเท่ากับ 92.32/82.00 3) ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น มีค่าเท่ากับ 0.66 หรือคิดเป็น ร้อยละ 66
4) ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากการทดสอบก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทั้ง 5 ชุด คะแนนสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
จากการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ทำให้ได้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีคุณภาพเหมาะสมกับนักเรียนเมื่อนำไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรมฝึกทักษะภาษาอังกฤษทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เป็นคำพื้นฐาน มีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น มีความรู้ส่งผลให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น