ชื่อเรื่อง รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน
โรงเรียนบ้านสร้างเรือ
ผู้วิจัย วรัชยา ประจำ
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านสร้างเรือ
ปีที่วิจัย 2557 - 2558
การวิจัยรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน โรงเรียนบ้านสร้างเรือ เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบและจัดทำคู่มือการใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ 2) เพื่อเปรียบเทียบความรู้ และความสามารถของครูด้านการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน ก่อนและหลังการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านทักษะการคิดของนักเรียน ก่อนและหลังการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูที่มีต่อการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ของครูตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การพัฒนารูปแบบและคู่มือรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน ระยะที่ 2 การทดลองใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน โดยดำเนินการทดลองใช้ในปีการศึกษา 2557 ระยะที่ 3 การประเมินผลรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน โดยดำเนินการทดลองใช้ในปีการศึกษา 2558 การวิจัยใช้กลุ่มทดลองกลุ่มเดียว มีการวัดผลก่อนและหลังการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน โรงเรียนบ้านสร้างเรือ (One Group Pre-test Post-test Design) ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง คือ ครู นักเรียน โรงเรียนบ้านสร้างเรือ ปีการศึกษา 2557 - 2558 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัย ประกอบด้วย แบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ แบบประเมินความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ แบบทดสอบความรู้ของครู แบบประเมินหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถด้านทักษะการคิดของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 6 จำนวน 6 ฉบับ แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการนิเทศครูด้านการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ของครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้วิธีการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การทดสอบลำดับพิสัย Wilcoxon
ผลการวิจัยพบว่า
1. จากการศึกษาวิจัยได้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ ที่มีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในระดับมากที่สุด ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้น คือ APPLE ประกอบด้วย 1) ขั้น A : Analysis Problems Process เป็นกระบวนการวิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการของผู้เรียน 2) ขั้น P: Planning Process เป็นกระบวนการวางแผนและกำหนดจุดมุ่งหมายการพัฒนา 3) ขั้น P : Participation Process เป็นกระบวนการร่วมมือปฏิบัติในการศึกษาแนวทางการพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน 4) ขั้น L : Leader Process กระบวนการนำการปฏิบัติการนิเทศร่วมกันและปรับปรุงแก้ไขบนพื้นฐานของข้อมูล 5) ขั้น E : Evaluating Process กระบวนการร่วมกันประเมินสะท้อนผล หาแนวทางที่เหมาะสมและรายงานผล แล้วนำไปพัฒนาคู่มือส่งผลให้ได้คู่มือการใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ ซึ่งคู่มือที่ได้มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด
2. ผลการพัฒนาความรู้และความสามารถของครูหลังการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ พบว่า 1) ผลการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความรู้ของครูด้านการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน หลังการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ ครูมีความรู้สูงกว่าก่อนการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2) ผลการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของการประเมินความสามารถของครูด้านการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน ได้แก่ 1) ด้านการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 2) ด้านการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และ 3) ด้านพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ หลังการดำเนินการรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ สูงกว่าก่อนการดำเนินการตามรูปแบบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความสามารถด้านทักษะการคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำแนกรายชั้น พบว่า หลังการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน สูงกว่าก่อนการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ส่วนในในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 6 หลังการดำเนินการสูงกว่าก่อนการดำเนินการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของครูที่มีต่อการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ อยู่ในระดับมากที่สุด
5. นักเรียน มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน หลังการดำเนินการตามรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนบ้านสร้างเรือ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด