บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการศึกษาเพื่อศึกษาผลการนิเทศการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของครูบรรณารักษ์โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษาเชียงราย เขต 1 ดังนี้ การศึกษาความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและศึกษาความพึงพอใจของครูบรรณารักษ์โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 ที่มีต่อการนิเทศการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
โดยศึกษากลุ่มตัวอย่างครูบรรณารักษ์โรงเรียน จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แนวทางการนิเทศการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน แบบทดสอบวัดความรู้ ความเข้าใจด้านการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน แบบนิเทศติดตามการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน แบบประเมินความสามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และ แบบประเมินความพึงพอใจของครูบรรณารักษ์ที่มีต่อการนิเทศการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 โดยผู้ศึกษาเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง และ วิเคราะห์ข้อมูลผลการศึกษาคะแนนความรู้ความเข้าใจก่อนและหลังการอบรมโดยใช้แนวทางการนิเทศการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของครูบรรณารักษ์โดยใช้ค่าสถิติ t-test for dependent ข้อมูลจากการนิเทศตามสภาพจริงใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหาประกอบการบรรยายแบบความเรียง ส่วนข้อมูลผลประเมินความสามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและข้อมูลความพึงพอใจของครูบรรณารักษ์ ใช้วิธีหาค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) และจัดกลุ่มครูบรรณารักษ์โดยแปลความหมายของคะแนนเป็นระดับคุณภาพ นำเสนอผลการวิเคราะห์เป็นตารางประกอบความเรียง
ผลการศึกษา
1. การทดสอบวัดความรู้ ความเข้าใจเรื่อง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของ ครูบรรณารักษ์ก่อนอบรมและหลังอบรมมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 6.93 คะแนน และ 24.68 คะแนน ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังอบรม พบว่า คะแนนสอบหลังอบรมของครูบรรณารักษ์สูงกว่าก่อนอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. ครูบรรณารักษ์มีความสามารถในการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านในภาพรวมอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ย 2.08 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.49 โดยความสามารถที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานพัฒนาห้องสมุดและกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและมีการประชุมคณะกรรมการ เพื่อวางแผนการดำเนินงานพัฒนาห้องสมุดและกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ส่วนรายการความสามารถที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดได้แก่ มีแผนงาน/โครงการห้องสมุดที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนและการนำผลการประเมินไปใช้พัฒนากิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
3. การนิเทศ ติดตามการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านตามสภาพจริงของ ครูบรรณารักษ์ พบว่า การดำเนินงานขั้นการวางแผนงาน /โครงการ โรงเรียนดำเนินการได้อยู่ในระดับดี ส่วนขั้นการดำเนินการ พบว่า โรงเรียนมีการดำเนินงานตามแผนงานที่กำหนดไว้ แต่บางกิจกรรมยังดำเนินการไม่ครบถ้วนในส่วนของการวัดและประเมินผลรายกิจกรรม
4. ครูบรรณารักษ์มีความพึงพอใจต่อการนิเทศการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอยู่ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.37 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.59 เมื่อพิจารณารายการ ที่ครูบรรณารักษ์มีความพึงพอใจต่อการนิเทศที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ การนิเทศมีความเป็นกัลยาณมิตร ค่าเฉลี่ย 4.60 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.49 รองลงมา ได้แก่ กระบวนการนิเทศและวิธีการนิเทศ มีความเหมาะสมกับสภาพการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และการนิเทศทำให้ ครูบรรณารักษ์สามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านได้ ค่าเฉลี่ย 4.53 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.50 และรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดได้แก่ การนิเทศไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของครู ผู้รับการนิเทศมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และผู้นิเทศสรุปการนิเทศที่เป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอย่างชัดเจน