ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้เอกสารประกอบการเรียนที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
รายวิชาสุขศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดปริก อำเภอเทพา
จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3
ผู้รายงาน นายสัมพันธ์ ทองรมย์
ปีที่ศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาสุขศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดปริกให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดปริก ก่อนและหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนวัดปริก ที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาสุขศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนวัดปริก
กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดปริก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) สาระที่ 1 การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ จำนวน 8 แผน และสาระที่ 2 ชีวิตและครอบครัว จำนวน 9 แผน รวม 17 แผน (ไม่รวมเวลาที่ใช้ในการปฐมนิเทศ การทดสอบกลางภาค การทดสอบปลายภาคเรียน/ปลายปี)
2) เอกสารประกอบการเรียน รายวิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 4 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนวิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อและทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ( X ) , ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) , ค่าร้อยละ , ค่า t - test Dependent
สรุปผลการวิจัย
1. เอกสารประกอบการเรียน วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ( E1) / ( E/2) เท่ากับ 80.97/83.86 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย (X) เท่ากับ 24.64
มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D) เท่ากับ 1.03 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่าเฉลี่ย (X) เท่ากับ 33.55 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D) เท่ากับ 1.21 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าระหว่างเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ในระดับมากที่สุด