ผลงานทางวิชาการ
เรื่อง ความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารงานวิชาการ ของโรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
ผู้วิจัย
นายสมพงษ์ ธนะสินธุ์
รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการ
โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานครและศึกษาข้อเสนอแนะในการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ครูของโรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2558 รวมทั้งสิ้น 62 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารงานวิชาการของมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า ระดับความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้แก่ 1) ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา 2) ด้านการส่งเสริมความรู้ทางวิชาการแก่ชุมชน 3) ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนงานวิชาการแก่บุคคล ครอบครัว องค์กร หน่วยงาน และสถาบันอื่นที่จัดการศึกษา 4) ด้านการประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาและองค์กรอื่น 5) ด้านการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 6) ด้านการพัฒนาสื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา 7)ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ 8) ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา 9) ด้านการวัดผล ประเมินผลและเทียบโอนผลการเรียน10) ด้านการแนะแนวการศึกษา11) ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และ12) ด้านการนิเทศการศึกษา ตามลำดับ
ข้อเสนอแนะในการบริหารงานวิชาการของครูโรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ตามกรอบแนวคิดการวิจัย พบดังนี้
1.ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ ควรมีการวางแผนในการพัฒนาหลักสูตรอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
2.ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ ควรมีการจัดอบรมสัมมนาทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง
3.ด้านการวัดผล ประเมินผล และเทียบโอนผลการเรียน ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจแก่ ครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน ในเรื่องการวัดผลและประเมินผล ที่หลากหลายตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
4.ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ ควรจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียน
5.ด้านการวัดผลและประเมินผล ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ โรงเรียนควรประชุมวิเคราะห์ ความจำเป็นในการใช้สื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษาเพื่อการเรียนการสอน
6.ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ ควรมีการสำรวจแหล่งเรียนรู้ ทั้งในโรงเรียนและบริเวณใกล้เคียงเพื่อนำมาพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้
7.ด้านการนิเทศการศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ จัดระบบนิเทศที่เป็นระบบ ต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้รับการนิเทศมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทราบข้อบกพร่อง ข้อที่ควรพัฒนาและทำให้เกิดประสิทธิภาพในการพัฒนางานอย่างแท้จริง
8.ด้านการแนะแนวการศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ ควรจัดให้มีห้องแนะแนว หรือมุมแนะแนว เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมแนะแนว ที่เป็นสัดส่วนที่แน่นอน
9.ด้านการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ ควรจัดให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองและนักเรียน เข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอ พิจารณาในการจัดทำแผนงานและโครงการระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา
10.ด้านการส่งเสริมความรู้ด้านวิชาการแก่ชุมชน ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือโรงเรียนเชิญวิทยากรในเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญ มาให้ความรู้แก่คนในชุมชน โดยโรงเรียนเป็นตัวกลางที่ประสาน
11.ด้านการประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาอื่น ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ ควรมีการจัดกิจกรรมทางวิชาการร่วมกับโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และบูรณาการการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน
12.ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนงานวิชาการแก่บุคคล ครอบครัว องค์กร หน่วยงานและสถาบันอื่นที่จัดการศึกษา ข้อที่มีค่าความถี่ในการตอบสูงสุด คือ จัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการจัดการศึกษาของผู้เรียน โดยทำกิจกรรมร่วมกันเช่น กิจกรรมค่ายทางวิชาการที่โรงเรียนจัดขึ้น และเชิญผู้ปกครอง หน่วยงานอื่นเข้ามามีส่วนร่วม