ชื่อผู้ศึกษา นางพาดีละ อับดุลมูตาเละ
การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะเป็นการจัดเรียนรู้โดยจัดประสบการณ์การฝึกหัดเพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะและความชำนาญในการแก้ปัญหา การจัดการเรียนรู้การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ.เพื่อการสื่อสารชุด Writing for communication. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2). เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชุด Writing for communication. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3 ) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ.เพื่อการสื่อสาร ชุด Writing for communication..
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ประชากรเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 20 คน ที่ได้จากการคัดกรองนักเรียนที่มีผลสัมฤทฺธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษต่ำ ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านตันหยง โดยดำเนินการทดลองเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ซ่อมเสริมการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษหน่วยการเรียนรู้เรื่อง My self, My family และ My school กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตันหยง จำนวน 22 แผน รวม 22 ชั่วโมง 2) แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ.เพื่อการสื่อสาร ชุด Writing for communication.สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตันหยง จำนวน 22 แผน รวม 22 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของการจัดการเรียนรู้ซ่อมเสริม ชนิดเลือกตอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ซ่อมเสริมเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชุด Writing for communication. จำนวน 30 ข้อ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย
ผลการศึกษาพบว่า
1) ประสิทธิภาพของรายงานการพัฒนาทักษะการเขียน
ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ.เพื่อการสื่อสาร ชุด Writing for communication
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตันหยง
(E1) มีค่าเท่ากับ 82.14 และประสิทธิภาพ ของผลลัพธ์ (E2) มีค่าเท่ากับ 84.33 มีค่าเท่ากับ 82.14/84.33
2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของการจัดการเรียนรู้สอนซ่อมเสริมเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ.เพื่อการสื่อสาร ชุด Writing for communication.
ของคะแนนพบว่าค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 10.35
3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้สอนซ่อมเสริมเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ.เพื่อการสื่อสาร ชุด Writing for communication.กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตันหยงโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.21และค่าร้อยละ เท่ากับ 84.20
ข้อเสนอแนะ
1) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ควรนำแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชุด Writing for communication กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ไปประยุกต์ใช้สำหรับเสริมทักษะภาษาต่างประเทศ(อังกฤษ) ชุด Writing for communication เพราะได้มีผลการศึกษายืนยันความสำเร็จในการนำไปใช้แล้ว คือ การมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.14/84.33 สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง Myself, My family, My school กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้สูงขึ้นได้ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
2) จากผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนเป็นรายประเด็นพบว่า
ประเด็นด้านนักเรียนได้ประโยชน์จากการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ มีระดับความพึงพอใจสูงสุด อาจอธิบายได้ว่า ครูมีความสามารถพัฒนาให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ตามเนื้อหาที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นครูผู้สอนสามารถนำแนวทางการพัฒนาแบบฝึกทักษะดังกล่าวไปเป็นตัวแบบของการพัฒนาแบบฝึกทักษะการเรียนรู้อื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ประเด็นด้านแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษอ่านแล้วทำความเข้าใจง่าย มีระดับความพึงพอใจน้อยที่สุด อาจอธิบายได้ว่าในขณะทำแบบฝึกทักษะนักเรียนอาจไม่เข้าใจวิธีการทำแบบฝึกทักษะ ดังนั้นครูผู้สอนต้องให้ความสำคัญสนใจนักเรียนและอธิบายขั้นตอนทำแบบฝึกให้นักเรียนทุกคนเข้าใจอย่างทั่วถึง เพื่อให้การเรียนรู้ของนักเรียนเป็นไปได้อย่างเต็มศักยภาพ