บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : รายงานการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน : นางสาวจิราพร สุขใส
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค ก่อนเรียนและหลังเรียน และเพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดราษฎร์บูรณะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 เล่ม ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนโดยใช้แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 สเกล จำนวน 16 ข้อ ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาค่าดัชนีประสิทธิผล และการทดสอบ t (t - Test for Dependent Sample)
ผลการศึกษาพบว่า :
1. พบว่าร้อยละของค่าเฉลี่ยของคะแนนจากการทำแบบทดสอบระหว่างเรียนเป็น 85.16 และร้อยละของค่าเฉลี่ยของคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค เป็น 84.76 ดังนั้น E1/E2 เป็น 85.16/84.76 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ดังนั้นถือได้ว่ามีประสิทธิ์ภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.6736 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6736 หรือคิดเป็นร้อยละ 67.36
3. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ที่ระดับนัยสำคัญ .01 (p-value < .01)
4. ค่าเฉลี่ยคะแนนความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด 2 ด้าน และอยู่ในระดับมาก 2 ด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการนำเสนอ ด้านการสอน ด้านเนื้อหา และด้านตัวอักษร เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า นักเรียนมีความเห็นว่าอยู่ในระดับมากที่สุด 6 ข้อ อยู่ในระดับมาก 10 ข้อ โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ รูปภาพช่วยสื่อความหมายบทเรียนได้ดีขึ้น ต้องการเรียนด้วยบทเรียนในลักษณะนี้กับบทเรียนอื่นๆ และรูปภาพช่วยเร้าความสนใจ
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นี้ สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้แก่นักเรียนได้