รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมสุขศึกษา เรื่อง ชีวิตสุขสันต์ในวัดเมืองยะลา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ (วัดเมืองยะลา) ปีการศึกษา 2559
ชนินทร์ พุ่มแก้ว
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมสุขศึกษา เรื่องชีวิตสุขสันต์ในวัดเมืองยะลา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรมสุขศึกษา เรื่องชีวิตสุขสันต์ในวัดเมืองยะลา 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อ ชุดกิจกรรมสุขศึกษา เรื่อง ชีวิตสุขสันต์ในวัดเมืองยะลา
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาล ๖ (วัดเมืองยะลา) สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนครยะลา จำนวน 28 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) เพื่อเป็นกลุ่มเป้าหมายในการศึกษาครั้งนี้
ค่าสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D. และค่าแจกแจง t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมสุขศึกษา มีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์ 80/80 โดยมีค่าประสิทธิภาพ E1 เท่ากับ 85.80 และค่าประสิทธิภาพ E2 เท่ากับ 86.07 ดังนั้น จัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดกิจกรรมสุขศึกษา มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น โดยที่การประเมินผลก่อนและหลังเรียนที่ได้รับ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดกิจกรรมสุขศึกษา เรื่อง ชีวิตสุขสันต์ในวัดเมืองยะลา พบว่า นักเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น โดยที่การประเมินผลก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย 10.21 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.40) ขณะที่การประเมินหลังเรียน มีค่าเฉลี่ย 25.82 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.25) แสดงว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดกิจกรรมสุขศึกษา เรื่อง ชีวิตสุขสันต์ในวัดเมืองยะลา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมสุขศึกษา เรื่อง ชีวิตสุขสันต์ในวัดเมืองยะลา โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ย 4.03 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.24 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความสนุกสนาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.71 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.46 อยู่ในระดับมาก รองลงมาด้านสร้างความสนใจให้ผู้เรียนเกิดอยากเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.49 และให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการประเมินการเรียนรู้ตลอดเวลา สร้างความสนใจให้ผู้เรียนเกิดอยากค้นหา ตอนที่ 1 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.50 อยู่ในระดับมาก ตามลำดับ