ครูบ้านนอก

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ การจัดกิจกรรมด้วยชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคระห์ 38 จังหวัดระนอง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 16 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 9 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน 40 ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนด้วยชุด กิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 9 ชุด การหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ใช้วิธีการหาค่าเฉลี่ยร้อยละ การทดสอบความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการทดสอบค่าที (t - test) วิเคราะห์ความพึงพอใจ ใช้ค่าเฉลี่ย ( X ̅ ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) วิเคราะห์ความพึงพอใจ

ผลการวิจัยพบว่า

1. ชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 85.01 /80.69 ผ่านเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังใช้ชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของกลุ่มตัวอย่างสูงกว่าก่อนใช้ชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05

3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมด้วยชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมากที่สุด( X ̅= 4.76 , S.D. = 0.14)

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 87,722 ครั้ง หน้ามน-หน้ามล	เปิดอ่าน 1,247 ครั้ง การปรับปรุงอัตราค่าอาหารและค่าเช่าที่พักในการจัดฝึกอบรมภายในประเทศ (ว246) (ประกาศใช้วันที่ 31 ตุลาคม /2568)	เปิดอ่าน 17,170 ครั้ง คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้
เปิดอ่าน 7,936 ครั้ง เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที	เปิดอ่าน 49,016 ครั้ง วันเนา	เปิดอ่าน 18,708 ครั้ง มุขตลกของเด็กๆ ในห้องเรียน จำลองห้องเป็นรถเมล์
เปิดอ่าน 21,616 ครั้ง นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565	เปิดอ่าน 43,740 ครั้ง ชุดประจำชาติต่างๆ ในอาเซียน	เปิดอ่าน 11,681 ครั้ง วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
เปิดอ่าน 17,785 ครั้ง การศึกษาชำรุด-เด็กไม่รู้จักตัวเอง ปรับระบบสอบแค่แก้ปัญหาปลายเหตุ	เปิดอ่าน 25,043 ครั้ง นโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา	เปิดอ่าน 14,955 ครั้ง พบหลุมยุบยักษ์ปริศนาที่ไซบีเรีย นักวิทย์เร่งหาคำตอบ
เปิดอ่าน 28,645 ครั้ง สอนทำ header hi5 ด้วย photoshop	เปิดอ่าน 13,333 ครั้ง ไปรษณีย์ไทย ยัน แสตมป์เซเว่น ใช้ส่งจดหมายไม่ได้	เปิดอ่าน 39,248 ครั้ง การใช้อินเทอร์เน็ตและผลกระทบต่อคะแนนวิทยาศาสตร์ : FOCUS ประเด็นจาก PISA : ฉบับที่ 33 (กันยายน 2561)

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory